22 แบงก์ฝ่าวิกฤต “โควิด-19” ยืดหนี้-ลดดอกเบี้ยนานสุด 18 เดือน
22 แบงก์ฝ่าวิกฤต "โควิด-19" ยืดหนี้-ลดดอกเบี้ยนานสุด 18 เดือน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ที่มีแนวโน้มลุกลามและส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้างต่อธุรกิจและประชาชนทั่วไป ดังนั้นธปท. ได้ติดตามสถานการณ์และมีความห่วงใยมาโดยตลอดจึงได้ร่วมกับสถาบันการเงิน 22 แห่ง กำหนดมาตรการช่วยเหลือ ดังนี้
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ลูกหนี้ธุรกิจสินเชื่อเดิมที่มีกับธนาคาร พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ส่วนให้สินเชื่อเพิ่ม โดยลูกหนี้ SMEs ให้สินเชื่อประเภท PN ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และสามารถต่ออายุได้โดยมีระยะเวลารวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 1 ปี วงเงินให้ความช่วยเหลือสูงสุด 20 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้รายใหญ่พิจารณาสินเชื่อเพิ่มตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี
ด้านลูกหนี้รายย่อย (สินเชื่อบัตรเครดิต) ผ่อนผันลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติร้อยละ 50 ผ่อนผันลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกินร้อยละ 10 ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยอื่นๆ (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบุคคล) พิจารณาผ่อนปรนการชำระหนี้เป็นรายกรณี
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ลูกค้าธุรกิจ แบ่งเป็น 1.สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ประเภทเงินกู้) ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน 2.วงเงินหมุนเวียน (ประเภทตั๋ว) ขยายตั๋วครั้งละไม่เกิน 3 เดือน และ 3.สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
ด้านลูกค้ารายย่อย แบ่งเป็น 1. สินเชื่อบ้านกสิกรไทย และสินเชื่อที่อยู่อาศัยอื่นที่มีหลักประกัน ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน 2.สินเชื่อบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยถึงรอบบัญชีเดือนธันวาคม 2563 3.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% ระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน และขยายระยะเวลาการผ่อนสูงสุด 6 เดือน โดยรวมสัญญาล่าสุดต้องไม่เกิน 7 ปี
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกด (มหาชน) หรือ SCB ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจให้กับลูกค้าธุรกิจด้วยการพักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C สูงสุด 6 เดือน
ส่วนลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อย แบ่งเป็น 1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน 2.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ พักชำระค่างวดสูงสุด 6 เดือน 3.สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล พักชำระยอดขั้นต่ำสูงสุด 6 เดือน
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ลูกหนี้ธุรกิจ พักชำระหนี้เงินต้นตามระดับผลกระทบ ทั้งนี้ไม่เกิน 12 เดือนขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้สอดคล้องกับธุรกิจ ส่วนลูกค้ารายที่ใช้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อเดิม สามารถขยายระยะเวลาค้ำประกันออกไปได้อีก 5 ปี โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ และเป็นไปตามเกณฑ์ของ บสย.
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY สำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับวงเงินกู้ระยะยาวเป็นระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน ลดดอกเบี้ยสูงสุด 2% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ เป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
ส่วนมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ประกอบด้วย 1.ลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด 2.ลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด (แล้วแต่กรณี) 3.ลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือ UOB ลูกหนี้ธุรกิจ พักชำระหนี้เงินต้น (Grace Period) สูงสุด 12 เดือน ส่วนลูกหนี้รายย่อย ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำของสินเชื่อบัตรเครดิต
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ลูกหนี้ธุรกิจ / ลูกหนี้รายย่อย เช่น ผ่อนปรนการชำระเงินต้นชั่วคราวลดภาระการผ่อนชำระ ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ยกเว้นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องบางส่วน
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้รายย่อย ประกอบด้วย 1.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ธนชาต DRIVE พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 60 วัน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 96 งวด เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้ 2.สินเชื่อเล่มแลกเงิน พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 60 วัน 3.สินเชื่อบ้านธนชาต พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน 4.สินเชื่อบุคคลธนชาต พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน 5. บัตรเครดิตธนชาต ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 5% หรือ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน 6.บัตรกดเงินสด Flash Plus ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 1% หรือ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ส่วนลูกค้าธุรกิจ ประกอบด้วย 1.สินเชื่อ SMEs รายย่อย : Term loan พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน ส่วน O/D ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% จากสัญญาเดิม ระยะเวลา 3 เดือน 2.สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ : Term loan พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน หรือ ขยายเวลาเงินกู้สูงสุด 6 เดือน ส่วน Short term loan (Working Capital & Trade Finance) ขยายเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ลูกหนี้รายย่อย ประกอบด้วย 1.สินเชื่อบ้าน พักชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ 2.สินเชื่อบัตรเครดิต ยกเว้นการชำระยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นเวลา 3 รอบบัญชี นับจากวันที่ลูกค้าโทรติดต่อเข้ามาแจ้งความประสงค์ โดยลูกค้าสามารถเริ่มชำระยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป
รวมทั้ง 3.สินเชื่อบุคคล พักชำระหนี้ (เงินต้น ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม (ถ้ามี)) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน หรือ จนกว่าจะชำระคืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ครบถ้วน 4.บัตรกดเงินสด ยกเว้นการชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 รอบบัญชี ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 ลูกค้ากลับมาชำระหนี้ตามปกติ
ด้านลูกหนี้ธุรกิจ ประกอบด้วย 1. สินเชื่อลูกค้า SME พักชำระหนี้เงินต้นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน (6-month grace period) และขยายเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือน วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% จากสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
2.สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 1.กรณีมีวงเงินกู้ระยะยาว (Term Loan) ขอพักชำระเงินต้นได้สูงสุด 6 เดือนและขอขยายเวลาการผ่อนชำระออกไปได้อีก 6 เดือน สูงสุดได้ 2 ครั้ง รวม 12 เดือน (ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร) 2.กรณีมีวงเงินกู้ระยะสั้น ODB, O/D, RPN ธนาคารขยายเวลาชำระเงินให้ 3 เดือน สูงสุดได้ 2 ครั้ง รวม 6 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.กรณีมีวงเงินกู้ Trade Finance ธนาคารขยายเวลาพักชำระเงินให้ 3 เดือน สูงสุดได้ 2 ครั้ง รวม 6 เดือน และ 4.กรณีมีวงเงินกู้ LC: Letter of Credit ที่ครบกำหนดชำระเงิน สามารถแปลงวงเงิน LC เป็นวงเงิน TR ได้ โดยมีอายุวงเงิน TR ไม่เกิน 6 เดือน ระยะเวลาโครงการ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าประกอบธุรกิจบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ธุรกิจร้านค้าปลีกสำหรับนักท่องเที่ยว,ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเกษตร, ธุรกิจการขนส่ง, ธุรกิจเช่ารถ หรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ลูกหนี้ผู้ประกอบธุรกิจอพาร์ตเมนต์โรงแรม พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 18 เดือน ส่วนลูกหนี้รายย่อย พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน ส่วนลดดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระหนี้
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) แนวทางการให้ความช่วยเหลือจะถูกพิจารณาเป็นรายกรณี
ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลธรรมดา เพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และผ่อนปรนอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ธนาคารจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าปัจจุบันของธนาคารเป็นรายกรณี
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ในส่วนของลูกหนี้ธุรกิจ สามารถผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และ ขยายระยะเวลาเงินกู้ เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระลดลงหลังหมดช่วงปลอดเงินต้น สนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มช่วยเหลืออื่นๆ ตามที่เห็นสมควรโดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ลูกหนี้ SMEs ทั้งบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล สามารถพักชำระหนี้เงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 24 เดือน ปรับลดจำนวนเงินการผ่อนชำระค่างวด และขยายระยะเวลาเงินกู้ออกไปสูงสุดไม่เกิน 24 เดือน
บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) ปรับลดดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563 ปรับลดค่างวดร้อยละ 60 ของค่างวดที่กำหนดไว้เดิม เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563 พักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มีนาคม – สิงหาคม 2563 โดยลูกหนี้สามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ธนาคารออมสิน ให้สินเชื่อเพิ่มวงเงินสูงสุด 50,000 บาท ผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี และปลอดชำระหนี้ 6 งวดแรก แก่ผู้ประกอบการ ผู้มีอาชีพอิสระ พนักงานลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ยื่นคำขอได้ภายใน 30 กันยายน 2563 ลดดอกเบี้ยให้สูงสุด 20% ของดอกเบี้ยจ่าย ระยะเวลา 1 ปี พักเงินต้นไม่เกิน 2 ปี และขยายเวลาชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอได้ภายใน 31 ธันวาคม 2563
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลูกค้ารายย่อยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง ขยายเวลาชำระหนี้เดิมออกไป 2 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564 ส่วนโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งปี 2563 วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งสามารถกู้เพื่อลงทุนได้รายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 0% ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-2% (ปัจจุบัน MRR= 6.875%) กำหนดชำระคืนไม่เกิน 10 ปี สนับสนุนสินเชื่อตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 ธันวาคม 2563
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปรับลดดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน โดยลูกค้ารายย่อย ลูกค้าเดิมของ ธอส. ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดด้านรายได้จากโรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สามารถยื่นคำขอได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2563
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ด้านสินเชื่อ สามารถพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน รวมทั้งขยายระยะเวลาให้ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงิน (รวมอายุตั๋วเดิมไม่เกิน 360 วัน) ขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดได้สูงสุด 5 ปี สำหรับลูกค้าที่มีการค้ำประกันสินเชื่อโดย บสย. PGS ระยะที่ 5-7 โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ระยะเวลาให้บริการ 4 กุมภาพันธ์ – 31 ธันวาคม 2563
ด้านรับประกันการส่งออก ขยายเทอมการชำระเงินที่ให้ความคุ้มครองสำหรับลูกค้าประกันการส่งออก ที่มีการส่งออกไปยังผู้ซื้อในประเทศจีน โดยไม่คิดค่าเบี้ยประกันเพิ่ม กรณีขยายเทอมไม่เกิน 180 วัน (หากขยายเกิน 180 วันแต่ไม่เกิน 270 วัน จะเรียกเก็บเบี้ยประกันเพียง 50%) เพิ่มความคุ้มครองให้กับการส่งออกสินค้าเน่าเสียง่ายในกรณีที่ผู้ซื้อในประเทศจีนไม่รับมอบสินค้าเป็นกรณีพิเศษ ในอัตรา 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงินรับประกัน ลดระยะเวลาการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนระยะเวลาให้บริการ 4 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563
ส่วนมาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินเชื่อวงเงินกู้ระยะยาวเพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือเพื่อต่อเติมปรับปรุงโรงงาน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี หลักประกันขั้นต่ำ 40% สำหรับกลุ่มลูกค้า SMEs ใช้ บสย. ค้ำประกันได้ (โครงการ PGS 8) อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2.00% ระยะเวลาให้บริการ 31 มกราคม – 31 ธันวาคม 2563
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ช่วยเหลือ SMEs ไทยที่ได้รับผลกระทบไวรัสโคโรนา โดยการพักชำระหนี้เงินต้น สำหรับลูกค้าบัญชีประเภทเงินกู้ระยะยาว นานสูงสุด 12 เดือนขยายเวลาชำระหนี้ โดยขยายเวลาให้สอดคล้องกับธุรกิจได้ และสำหรับลูกค้าที่ใช้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อเดิมสามารถขยายระยะเวลาค้ำประกันออกไปได้อีก 5 ปี โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเติมทุนสินเชื่อดอกเบี้ยถูกนิติบุคคล 3% ต่อปี ใน 3 ปีแรก บุคคลธรรมดา 5% ต่อปีใน 3 ปีแรก
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ลูกค้าสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยเฉพาะภาคธุรกิจการท่องเที่ยวรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม พักชำระหนี้เงินต้นและชำระเฉพาะกำไรนานสูงสุด 12 เดือน (ทั้งนี้ ไม่เกินเดือนธันวาคม 2563) ยื่นคำขอไม่เกินวันที่ 30 เมษายน 2563 ณ สาขาของธนาคารทั่วประเทศ
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกมาตรการพักการชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อเป็นระยะเวลา 12 เดือน สำหรับลูกค้า SMEs เดิม ของ บสย. ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ได้แก่ ธุรกิจบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก หรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นลูกค้า บสย. ที่ถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563
โดยมีมาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” ช่วยเหลือ SMEs ที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง โดยสถาบันการเงินได้ปรับปรุงเงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ และมีการเติมทุนสร้างสภาพคล่อง สามารถใช้โครงการ “บสย. SMEs สร้างไทย” ได้ทันที รับคำขอค้ำประกันจนถึง 31 ธันวาคม 2563
ส่วนมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนจากเหตุการณ์โคราช ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อธุรกิจ 2 ปีแรก สำหรับ SMEs ที่ได้รับการผ่อนปรนการชำระหนี้กับธนาคาร และต้องการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ขยายสภาพคล่อง