สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มี.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 มี.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% เมื่อวานนี้ อาจสะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบของไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนทำให้เฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยก่อนที่การประชุมตามกำหนดการจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,917.41 จุด ร่วงลง 785.91 จุด หรือ -2.94% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,003.37 จุด ลดลง 86.86 จุด หรือ -2.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,684.09 จุด ลดลง 268.08 จุด หรือ -2.99%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางต่างๆ จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.37% ปิดที่ 381.13 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,393.17 จุด เพิ่มขึ้น 59.66 จุด หรือ +1.12%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,985.39 จุด เพิ่มขึ้น 127.52 จุด หรือ +1.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,718.20 จุด เพิ่มขึ้น 63.31 จุด หรือ +0.95%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่รมว.คลังกลุ่ม G7 ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 ด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,718.20 จุด เพิ่มขึ้น 63.31 จุด หรือ +0.95%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 51.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เมื่อวานนี้ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 49.6 ดอลลาร์ หรือ 3.11% ปิดที่ 1,644.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 44.9 เซนต์ หรือ 2.68% ปิดที่ 17.188 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.9 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 869.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 40.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,387.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.23 เยน จากระดับ 107.84 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9570 ฟรังก์ จากระดับ 0.9572 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3373 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3353 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1175 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1161 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2811 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2776 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6595 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6531 ดอลลาร์สหรัฐ