“บล.ไอร่า” คัด 8 หุ้นเด่นน่าสะสม ชูพื้นฐานแน่น-ราคาแกร่งกว่าตลาด

“บล.ไอร่า” คัด 8 หุ้นเด่นน่าสะสม ชูพื้นฐานแน่น-ราคาแกร่งกว่าตลาด


ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมีนาคมว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้ตลาดอยู่ในสภาวะ Risk-off พร้อมความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยไตรมาส 1/2563 ที่มีโอกาสชะลอตัวรุนแรง และแนวโน้มการปรับประมาณการ EPS ของตลาดลงหลังผลประกอบการไตรมาส4/2562 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

รวมถึงแรงกดดันต่อกลุ่มธนาคารทั้งจากการปรับเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมของธนาคาร ซึ่งคาดครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและกลุ่มลูกค้าเกือบทั้งหมด และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. วันที่ 25 มี.ค. นี้ จากก่อนหน้ามีความกังวลต่อ NPL ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา

ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแบบ “ฉุกเฉิน” 0.5% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.00-1.25% เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนการประชุมรอบปกติในวันที่ 17-18 มี.ค. 2563

อย่างไรก็ตามตลาดมีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้บ้าง หลังดัชนีปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกเล็กๆ ได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถชดเชยปัจจัยกดดันข้างต้น ทำให้มองเป็นโอกาสในการขายลดความเสี่ยงเมื่อตลาดหุ้นดีดตัว โดยทางเทคนิคมีแนวรับแรกที่ 1,290 จุด และแนวรับถัดไป 1,250 จุด ส่วนแนวต้านแรก 1,400 จุด และแนวต้านถัดไป 1,460 จุด

ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ  กนง. จะมีการประชุมในวันที่  25 มีนาคม นี้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่สร้างความตระหนกให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยังคงต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมัน คาดว่ามีโอกาสปรับขึ้นได้ หากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายระยะเวลาการลดการผลิตออกไปจากเดิมครบกำหนดเดือนมีนาคมนี้

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนเป็นชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยเข้าสู่โหมด Wait and See และถือเงินสดหรือทองคำไว้ในพอร์ตเป็นหลัก อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนระยะยาว และรับความเสี่ยงได้สูง แนะนำหาโอกาสในการทยอยเข้าสะสมหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่ราคาปรับตัวลงตามตลาด เช่น กลุ่มรับเหมา ก่อสร้าง เช่น  CK, STEC และ SEAFCO รองลงมาหุ้นกลุ่มอาหาร เช่น CPF ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรง  และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวตามปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจและเป็นโอกาสในการเข้าสะสม โดยมีหุ้นแนะนำสำหรับเดือนมีนาคม ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC, AP, ASK, CPF, GULF และ SEAFCO เป็นต้น

Back to top button