“จีน” เล็งช่วยไทย จัดหาอุปกรณ์การแพทย์สู้ “โควิด-19”

“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เผย “จีน” รับปากช่วยไทยจัดหาอุปกรณ์การแพทย์สู้ “โควิด-19” หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนเริ่มคลี่คลาย


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับนายหยางซิน อุปทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ว่า ได้สอบถามเรื่องที่ทางจีนมีนโยบายจะให้ความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ เพราะสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนเริ่มคลี่คลายเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนั้น ในช่วงที่ผ่านมาทางการจีนได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาตลอดเรื่ององค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาทางการแพทย์ที่จะทำสงครามกับเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยอุปทูตจีนได้สอบถามความต้องการให้ช่วยเหลือของไทย ซึ่งนายจุรินทร์ ก็ได้แจ้งว่าต้องการความช่วยเหลือทุกด้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ได้แก่ 1.หน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากไทยมีกำลังการผลิตเพียงวันละ 1.2 ล้านชิ้น 2.หน้ากากแบบ N95 (ขนาดหนา) 3.ชุด PPE (Personal Protection Equipment ) อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล หรือชุดคลุมทั้งตัวที่ใช้ในห้องติดเชื้อ 4.ชุดคัดกรองไวรัสโควิด-19 ที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อ  และ 5.วัตถุดิบที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งขณะนี้มีราคาสูงมากจากกิโลกรัมละ 3 ดอลลาร์ ขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 45 ดอลลาร์

ทั้งนี้ นายหยาง ซิน อุปทูตจีน กล่าวว่า หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 จีนและไทยได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นจีนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและประชาชนชาวไทยมากมาย ทั้งกำลังใจและวัตถุต่างๆ ที่ช่วยเหลือคนจีนทำสงครามกับโควิด-19 จนปัจจุบันนี้ก็มีข่าวดีออกมาว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลงมาก สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และจีนมีประสบการณ์และมีกำลังเพียงพอที่จะช่วยเหลือมิตรประเทศต่อไป

“วันนี้ผมมาเพื่อที่จะรับทราบสถานการณ์ของไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ความต้องการของรัฐบาลไทยมีอะไรบ้าง และสถานทูตเราจะพยายามทำเท่าที่ทำได้ นอกจากรักษาผู้ป่วยที่ประเทศจีนแล้วเราจะพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกันทำสงครามกับโควิด-19 และก่อนหน้านี้จีนกับไทยแลกเปลี่ยนวิธีการรักษาระหว่างทีมแพทย์จีนกับไทยมาโดยตลอด ได้มาพบและคุยเรื่องยาหลังจากนี้เรื่องวัตถุดิบประเทศจีนยินดีที่จะช่วยเหลือ” นายหยาง กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของเรื่องหน้ากากอนามัยที่มีกำลังการผลิตได้วันละ 1.2 ล้านชิ้นว่า กำลังพยายามที่จะเร่งรัดให้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 2 แนวทาง คือ 1.การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน 2.เร่งรัดประสานงานกับโรงงานผลิตทั้ง 11 แห่ง ให้เปลี่ยนไลน์การผลิตสินค้าอื่นมาผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์

Back to top button