SET บ่ายร่วงหนักตาม “ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส” จับตา “Circuit Breaker” หากรูดเกิน 10%
SET บ่ายร่วงหนักตาม "ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส" จับตา “Circuit Breaker” หากรูดเกิน 10%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวม เปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ ณ เวลา 14.30 น. ที่ระดับ 1,131.33 จุด ลบ 118.56 จุด หรือ 9.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.76 หมื่นล้านบาท
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอย่างมากในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในต่างประเทศทั่วโลก โดยปรับตัวลดลงไปกว่า 8% ซึ่งตลท.ได้มีการติดตามการซื้อขายอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมบล็อกเทรด ช็อตเซล และโปรแกรมเทรดดิ้ง พบว่ายังมีสัดส่วนการทำธุรกรรมเท่ากับในช่วงเวลาปกติ ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างได
ทั้งนี้ หากมองถึงการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงระยะเวลาถัดไป ยังคงต้องติดตามทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่ผลกระทบของราคาน้ำมันนั้นปัจจุบันมองว่าไม่ใช่ประเด็นหลักแล้ว เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเกิดขึ้นครั้งเดียวและเป็นไปตามกลไกตลาด ในทางกลับกันมองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงน่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นต้นทุนที่สำคัญ และจะส่งผลให้ต้นทุนด้านต่างๆ ปรับตัวลดลงไปตามด้วย จึงขอฝากให้นักลงวิเคราะห์ในการประเมินต่อว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายภากร ตั้งข้อสังเกตว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยมากกว่าตลาดหุ้นในต่างประเทศนั้นตอบรับความวิตกกังวลของปัญหาต่าง ๆ มากเกินกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ แต่จากช่วงต้นปีถึงปัจจุบันมองว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยที่ลดลงมาถึง 25-26% และระดับ P/E ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะยาว
“ตอนนี้เรามองว่าการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นว่าตกใจมากเกินไปหรือไม่ ซึ่งเราก็ได้ร่วมมือกับสมาคมนักวิเคราะห์ในการวิเคราะห์เรื่องนี้มาโดยตลอด ที่จะเข้ามาอธิบายผลกระทบที่มีต่อตลาดว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาทิเช่นราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ว่าจะเป็นผลกระทบด้านดีอย่างไร และเป็นผลกระทบด้านลบอย่างไร” นายภากร กล่าว
ส่วนของนักลงทุนต่างชาติ ปัจจุบันยังมีสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยที่ 28.7% ลดลงจากที่ระดับปกติที่ 29-30% ไม่ได้ผิดจากสัดส่วนปกติไปมากนัก โดยเป็นเรื่องปกติเนื่องจากมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ปรับตัวลดลง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติต้องมีการปรับพอร์ตลงมาให้เหมาะสมตามไปด้วย
สำหรับมาตรการพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราว (Circuit Breaker) หากดัชนีปรับขึ้นหรือลงถึง 10% นั้น นายภากร กล่าวว่า ระดับ 10% ยังมีความเหมาะสม โดยที่ผ่านก็ได้มีการศึกษาว่าหากเป็นระดับ 7% หรือ 15% จะเป็นอย่างไร ซึ่งการตั้งระดับ Circuit Breaker ไว้ที่ 10% เพราะไม่อยากจะให้ถึงระดับการหยุดการซื้อขายเร็วเกินไป เพราะมองว่าไม่ได้เกิดประโยชน์
นายภากร กล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือกับราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ในการหามาตรการมาช่วยตลาดทุนเพิ่มเติม หากได้ความชัดเจนอย่างไรมจะมีการรายงานให้รับทราบเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจหยิบยกมาตรการต่าง ๆ ที่เคยดำเนินการมาในอดีตมาพิจารณาด้วย อย่างเช่นกองทุนพยุงหุ้น
ล่าสุด ณ เวลา 14.30 น. ดาวโจนส์ซื้อขายล่วงหน้า ปรับตัวลดลง 915 จุด หรือ 3.85%
อนึ่ง Circuit Breaker คือการหยุดการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ใช้สำหรับกรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อดัชนีเปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที
ครั้งที่ 2 เมื่อดัชนี เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดใน วันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติ โดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก