“รัฐบาล” ยันไม่ปิดศูนย์เฝ้าระวังฯสัตหีบ ใช้รองรับผีน้อย-กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ “โควิด-19”
“โฆษกรัฐบาล” ออกมายืนยัน ศูนย์เฝ้าระวังฯที่สัตหีบ ยังไม่ปิด ใช้รองรับผีน้อย-กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ “โควิด-19”
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วานนี้ (11 มี.ค.63) ว่าจะมีการปิดศูนย์กักกันโรคทั้งในความรับผิดชอบของกองทัพ และ กระทรวงมหาดไทยกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
โดยนางนฤมล ชี้แจงว่า ศูนย์เฝ้าระวังที่รัฐบาลตั้งขึ้น หรือ State Quarantine ที่อ่าวดงตาล ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ขณะนี้ได้มีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ยังคงเปิดใช้ และยังมีกลุ่มเฝ้าระวังอยู่ในศูนย์ฯ และต่อไปจะใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในระบบการคัดกรอง และไม่สามารถไปกักกันเฝ้าระวังที่ภูมิลำเนาได้ หรือกรณีอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น คนไทยจะกลับมาจากประเทศหนึ่ง แต่ไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ หรือไม่ผ่านการคัดกรองจากต้นทางมาอย่างครบขั้นตอน รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งศูนย์ฯนี้จะได้มีไว้เพื่อพร้อมรองรับกลุ่มดังกล่าว
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารข้อมูลที่ไม่ตรงกันนั้น นางนฤมล ยืนยันว่าเป็นการชี้แจงเพิ่มเติมจากที่พล.อ.อนุพงษ์ ได้ชี้แจงมา เนื่องจากข้อมูลบางส่วนอาจสับสนกับมาตรการของรัฐ โดยเฉพาะในเรื่องการปิดศูนย์กักกันโรค ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน โดยมีกระทรวงคมนาคมเข้ามาดำเนินการในการขนส่งกลับภูมิลำเนา
อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะออกมาตรการเข้มข้นเพิ่มขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ยกเลิก Visa On arrival และฟรีวีซ่าชั่วคราวนั้น ทำให้โอกาสคนเดินทางมาน้อยลง ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันใน 3 วัน เมื่อถึงไทยมีการคัดกรองที่สนามบิน หากมีไข้ส่งเข้าสถานพยาบาลทันที ส่วนผู้ที่ไม่มีไข้ให้กักกันที่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เข้มงวด ส่วนกรณียกเลิกวีซ่า Visa On arrival นั้นยืนยันว่าประเทศรัสเซีย ไม่ได้ร่วมอยู่ใน 18 ประเทศ เนื่องจากมีข้อตกลงทวิภาคีร่วมกัน