“นิวเจอร์ซีย์” ประกาศเคอร์ฟิวสกัด “โควิด-19” หลังยอดติดเชื้อในสหรัฐฯทะลุ 3,700 คน!

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ ประกาศเคอร์ฟิวในวันจันทร์ที่ 16 มี.ค.63 ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่วนเมืองอื่นๆ ได้ทำการปิดโรงเรียน , อาคารราชการ , โรงภาพยนตร์ , บาร์และร้านอาหารตามรอยหลายเมืองในยุโรป ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯจากไวรัสที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นเกือบ 70 ศพและผู้ติดเชื้อขยับขึ้นสูงกว่า 3,700 คน

“การประกาศเคอร์ฟิวเป็นการยกระดับครั้งสำคัญในความพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผลตั้งแต่คืนนี้ ร้านค้าปลีกทุกร้านที่ไม่มีความจำเป็น , ร้านสันทนาการและธุรกิจให้ความบันเทิง ต้องปิดหลังจาก 20.00น. การเดินทางที่ไม่จำเป็นและไม่ฉุกเฉินในนิวเจอร์ซีย์ จะไม่ได้รับอนุญาตระหว่าง 20.00น. จนถึง 5.00น. มันจะมีผลบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้ เราต้องการให้ทุกอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอก” ฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐฯ กล่าว

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของรัฐนิวเจอร์ซีย์ มีขึ้นไม่นานหลังจากทำเนียบขาวปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ

โดยการประกาศเคอร์ฟิวในนิวเจอร์ซีย์ มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เวิ้งว้างตามเมืองหลักต่างๆทั่วสหรัฐฯ ตรอกซอกซอย การขนส่ง และท้องถนนที่ปกติพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ตกอยู่ในสภาพที่เงียบงับ เนื่องจากบรรดาพนักงานเริ่มทำงานจากที่บ้าน ขณะที่โรงเรียนปิดการเรียนการสอนหลายสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม นอกจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ในบรรดาดินแดนหรือรัฐต่างๆของสหรัฐฯ มีเพียงเครือรัฐเปอร์โตริโกซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯเท่านั้นที่ประกาศเคอร์ฟิว

นอกจากนั้น มีรายงานว่า นิวยอร์ก เมืองซึ่งปกติแล้วไม่เคยหลับใหล บรรดาไนต์คลับ , โรงภาพยนตร์, โรงละครและสถานจัดคอนเสิร์ตถูกสั่งให้ปิดตั้งแต่วันอังคาร (17มี.ค.) เป็นต้นไป โดยนายกเทศมนตรี บิล เดอ บลาซิโอ ระบุว่า บาร์และร้านอาหารจะอนุญาตเฉพาะแบบที่ให้บริการนำส่งถึงบ้านเท่านั้น พร้อมดำเนินการปิดโรงเรียนทั้งหมดในนิวยอร์ก ไปจนถึงวันที่ 20 เม.ย.

ส่วนนครลอสแอนเจลิสก็มีคำสั่งปิดบาร์ , ร้านอาหารและไนต์คลับเช่นกันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยกาวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ร้องขอผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นให้ไปปลีกตัวจากผู้อื่น

ขณะที่คาสิโนใหญ่ๆและโรงแรมหลายแห่งในลาสเวกัสปิดบริการ และบางส่วนของเมืองนิวออร์ลีนส์ออกคำแนะนำให้ลดความจุของบาร์และไนท์คลับต่างๆลงครึ่งหนึ่ง