“สหรัฐฯ” เริ่มทดลองวัคซีนต้านไวรัส “โควิด-19” ครั้งแรกกับกลุ่มตัวอย่าง 45 คน!
“สหรัฐฯ” เริ่มทดลองวัคซีนต้านไวรัส “โควิด-19” ครั้งแรกกับกลุ่มตัวอย่าง 45 คน!
นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า การทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เริ่มต้นทดลองกับมนุษย์เป็นครั้งแรกแล้วในวันที่ 16 มี.ค.63 ตามเวลาท้องถิ่น
“การหาวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเร่งด่วนต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน โดยการศึกษาในเฟสแรกนี้ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญไปสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว” นพ.ฟอซี กล่าว
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวคือ mRNA-1273 พัฒนาขึ้นโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ร่วมกับบริษัทโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจไบโอเทคเพื่อพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 โดยการทดลองมีขึ้นในรัฐวอชิงตัน ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรง
โดยรายงานระบุว่า การทดลองในเฟสแรกนี้จะใช้กับกลุ่มตัวอย่างผู้ชายและผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ อายุระหว่าง 18-55 ปี จำนวน 45 คน ตามรายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งการทดสอบดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) ที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
ขณะที่ก่อนหน้านี้ อิสราเอล ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ออกมาประกาศว่า ได้คิดค้นวัคซีนต่อต้านโควิด-19 สำเร็จแล้วเช่นกัน โดยหนังสือพิมพ์ฮาเรตซ์ของอิสราเอล อ้างแหล่งข่าวรายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเพื่อการวิจัยทางชีววิทยา (ไอบีอาร์) ในสังกัดกระทรวงกลาโหมอิสราเอล สามารถพัฒนาวัคซีนสำหรับใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสร็จสมบูรณ์แล้ว
แต่ทั้งนี้ยังจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนทดสอบ และทดลอง อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจกินเวลาอีกนานหลายเดือน เริ่มจากการทดลองใช้ในสัตว์ ต่อด้วยการทดลองในคน เพื่อให้แน่ใจว่าตัววัคซีนไม่ก่อผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใดๆ ก่อนที่จะได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัยเพียงพอต่อการใช้งานในคน