PTTEP พุ่งกระฉูด 9% โบรกฯแนะ “ทยอยซื้อ” ชูเป้า 57 บ. มองดาวน์ไซด์จำกัด
PTTEP พุ่งกระฉูด 9% โบรกฯแนะ "ทยอยซื้อ" ชูเป้า 57 บ. มองดาวน์ไซด์จำกัด โดย ณ เวลา 16.13 น. ราคาอยู่ที่ 60.50 บาท บวก 5 บาท หรือ 9.01% สูงสุดที่ 61 บาท ต่ำสุดที่ 57.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ล่าสุด ณ เวลา 16.13 น. อยู่ที่ 60.50 บาท บวก 5 บาท หรือ 9.01% สูงสุดที่ 61 บาท ต่ำสุดที่ 57.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มี.ค.63) แนะนำ “ทยอยซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมาย 57 บาท/หุ้น โดยจากการที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการร่วมกันลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ได้ประชุมกันเมื่อ 5-6 มี.ค. 2563 ทำให้ซาอุดิอาระเบียตัดสินใจลดราคาขายน้ำมันดิบและมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันให้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่12.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเม.ย. 63 และจะเพิ่มปริมาณการส่งออกในเดือน พ.ค. 63 ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการสอบถามกับบริษัทในกลุ่มพลังงานถึงต้นทุนการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียต้นทุนการผลิตน้ำมันจะอยู่ที่ราว 20-25 เหรียญ/บาร์เรล, รัสเซียอยู่ที่ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล และสหรัฐซึ่งผลิตเชลล์ออยล์จะอยู่ที่ 40-45 เหรียญ/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีปัญหาสงครามราคาน้ำมันเกิดขึ้นแต่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปี 2563 คาดว่าฟื้นตัวได้จำกัดจากเศรษฐกิจโลกที่ยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งยังส่งผลต่อเนื่องมาในปีนี้ อีกทั้งล่าสุดยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่มีการระบาดไปทั่วโลกทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ หยุดชะงักส่งผลกระทบต่อต่ออุปสงค์การใช้น้ำมันให้ลดลง โดย IEA ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 2563 มาเป็นหดตัว 90,000 บาร์เรลต่อวัน จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
ขณะที่ปี 2562 รายได้จากกลุ่ม liquid คิดเป็น 38% ของรายได้ ขณะที่แก๊สคิดเป็น 62% สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากแก๊สซึ่งมีส่วนเลื่อมเวลา (lag-time) ในการคิดราคาขายย้อนหลัง 3-24 เดือนทำให้ราคาขายมีความผันผวนน้อยกว่าราคาน้ำมันที่มีส่วนเลื่อมเวลาเพียง 1 เดือน แต่ราคาน้ำมันที่ปรับลงมามากคาดจะส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของ PTTEP จากสูตรราคาผลิตภัณฑ์ที่อิงกับราคาน้ำมันสำเร็จรูปทำให้ทางฝ่ายปรับลดสมมติฐานราคาขายเฉลี่ยตามราคาน้ำมันที่ปรับลงจากเดิมที่ 59 เหรียญ/บาร์เรล เหลือ 35 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ปริมาณขายคาดที่ 390 KBOED เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ในส่วนต้นทุนการผลิตคาดจะอยู่ที่ราว 32 เหรียญ/BOED ปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 23,618 ล้านบาทลดลง 52% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับลงค่อนข้างมากทำให้คาดว่าบริษัทอาจต้องมีการตั้งด้อยค่าและค่าความนิยมจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ซึ่งมีข้อบ่งชี้ว่าจะมีการด้อยค่าเกิดขึ้นอย่างเช่นที่บริษัทเคยตั้งในไตรมาส 3/58 ที่ 1,385 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งในปีดังกล่าวราคาน้ำมันปรับลงในทิศทางเดียวกับที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายคาดว่าจำนวนการตั้งด้อยค่าในสินทรัพย์คงมีจำนวนไม่มากอย่างเช่นในปีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นราคาหุ้นยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลงอย่างต่อเนื่อง จากสมมติฐานราคาน้ำมันที่ปรับลงทุก ๆ 5 เหรียญส่งผลให้ราคาพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปราว 6-7 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตามคาดราคาหุ้นที่ซื้อขายปัจจุบันสะท้อนข่าวของการลดลงของราคาน้ำมันไปค่อนข้างมากแล้วและมองว่าการลดลงของราคาหุ้นจะมีจำกัด (downside) ณ ราคาปัจจุบัน โดยแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 57 บาท