DDD ส่งซิกปี 63 โตแจ่ม! รับรู้รายได้ “คิวรอน” 76% – ส่ง “OXE’CURE” บุกตลาดฟิลิปปินส์

DDD ส่งซิกปี 63 โตแจ่ม! รับรู้รายได้ “คิวรอน” 76% - ส่ง “OXE’CURE” บุกตลาดฟิลิปปินส์


นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน  บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท คิวรอน จำกัด และ บริษัท อเล็กซี่ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด (กลุ่มบริษัท “คิวรอน”) จำนวน 76% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้ว เพื่อขยายธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ในประเภทสินค้าใหม่ซึ่งมีตลาดขนาดใหญ่ทั้งในธุรกิจอุปกรณ์ดูแลผมและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากผ่านแบรนด์สินค้า ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เช่น อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม LESASHA และ ยาสีฟัน SPARKLE อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลที่เชี่ยวชาญในการให้ความรู้และคำแนะนำด้านการขาย การสาธิตสินค้า และตัวแทนขายต่างๆ

อีกทั้งการซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน(Synergy) เช่น การใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในการขายผ่านช่องทาง Online ของคิวรอน และการนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท “คิวรอน” ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ผ่านผู้จัดจำหน่าย(Distributor) ของบริษัท เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร และสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างมั่นคง

ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าผลประกอบการปี 2563 น่าจะเติบโตกว่าปีก่อน เนื่องจากปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากกลุ่มบริษัท “คิวรอน” ประมาณ 10 เดือน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทต้องดูสถานการณ์แพร่ระบาด และการเฝ้าระวังของไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ควบคู่ไปด้วย เพราะว่าสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องมีการปรับแผนการออกสินค้าใหม่ รวมถึงยังได้มีการปรับแผนโฆษณาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้อีกด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทยังมีการให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดต่างประเทศบริษัทจะเน้นการขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากผลิตภัณฑ์สเนลไวท์ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ในปีนี้บริษัทจะยังคงผลิตภัณฑ์เดิม และจะมีการขยายตลาดด้วยการนำอ๊อกซี่เคียว (OXE’CURE) เข้าไปจำหน่าย เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาเข้าร่วมลงทุน (Joint Venture) และการควบรวมกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของบริษัท หรืออาจร่วมกับการใช้เงินกู้ในสัดส่วนที่เหมาะสม

Back to top button