สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 5 ส.ค.58


– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.30 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 124.33/55 เยน/ดอลลาร์

– ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0849/0871 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,436.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด หรือ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 37,192.16 ล้านบาท

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 396.99 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 5 ส.ค. 58 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% เนื่องจากประเมินว่าการดำเนินนโยบายการงินในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยผ่อนคลายภาวะการเงินเพิ่มเติม ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในทิศทางที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

– กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุที่มีอาชีพอิสระและไม่มีสวัสดิการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินกรณีชราภาพ สามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้ ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ เบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2558 จะมีประชาชนและผู้สูงอายุเข้าเป็นสมาชิกกองทุนอย่างน้อย 6 แสนคน ซึ่งรัฐบาลเตรียมงบประมาณเพื่อจ่ายสมทบ 683 ล้านบาท

และในปี 2559 คาดว่าจะมีเข้ามาอีก 1 ล้านคน โดยรัฐบาลเตรียมงบประมาณรองรับ 1.7 พันล้านบาท ซึ่งหากสมาชิกมีมากกว่าที่คาดไว้ก็สามารถของบกลางมาใช้เพื่อรองรับในส่วนนี้ได้ โดยคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีสมาชิก กอช.ทั้งสิ้น 3 ล้านคน

– สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย พ.ศ.2559-2564 ทั้งในระดับมหภาคและรายสาขา เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ(กอช.) อนุมัติใช้เป็นกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและทิศทางอุตสาหกรรมในอนาคต พร้อมทั้งผลักดันการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วสู่การปฏิบัติต่อไป

– เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า IMF ยังคงมีแผนที่จะพิจารณาทบทวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเพิ่มสกุลเงินหยวนของจีนเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ภายในสิ้นปีนี้

– หนังสือพิมพ์อีโคโนมิค อินฟอร์เมชั่น เดลี่ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ของจีน มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นประมาณ 1.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าเดือนมิ.ย.ที่ขยายตัวเพียง 0.2%

– มูลค่าการค้าในระดับทวิภาคีของจีนกับประเทศต่างๆ ภายใต้โครงการเส้นทางเศรษฐกิจ ‘Belt & Road’  มียอดรวมแตะที่ 4.8537 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 25.8% ของมูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีนในช่วงเวลาเดียวกัน

– มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 54.0 จาก 54.4 ในเดือนมิ.ย. แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 53.7

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button