ก.ล.ต.ยืนยันมีแผนรองรับสถานการณ์ “โควิด-19” พร้อมเดินหน้าให้บริการต่อเนื่อง
ก.ล.ต.ยืนยันมีแผนรองรับสถานการณ์ "โควิด-19" พร้อมเดินหน้าให้บริการต่อเนื่อง
ตามที่คณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 24 มีนาคม 2563 มีมติเห็นชอบเรื่องประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19
โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมด้วยหน่วยงานในตลาดทุน ประกอบด้วยกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) สมาคมตลาดตราสารหนี้ (ThaiBMA) และชมรมคัสโตเดียน ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อซักซ้อมและประเมินความพร้อมของผู้ประกอบธุรกิจ โดยได้รับการยืนยันว่าผู้ประกอบการทุกรายมีความพร้อมที่จะให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง และมีแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. และหน่วยงานในตลาดทุนได้เตรียมความพร้อมและซักซ้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) และมีแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้มั่นใจถึงความพร้อมของตลาดหลักทรัพย์ ตลาดตราสารหนี้ และตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า เมื่อผู้ลงทุนประสงค์จะทำธุรกรรมในตลาดดังกล่าว รวมทั้งระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง
โดย ก.ล.ต. พบว่าผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลทุกแห่งมีแผนรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก COVID-19 มีศูนย์ปฏิบัติงานสำรองหรือมีระบบที่สามารถปฏิบัติงานได้นอกสถานที่ โดยเริ่มมีการแบ่งพนักงานไปทำงานนอกสถานที่เพื่อลดความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการปฏิบัติงานรวมถึงการบริการประชาชนจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนและประชาชนได้รับบริการเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดทุน และบริการอื่นที่เกี่ยวข้องจากผู้ประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 และขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน รวมถึงระมัดระวังการชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์หลอกลวง
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังเตรียมความพร้อมกับผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุขในการให้บริการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว เช่น ให้มีระยะห่าง กำหนดให้สวมหน้ากากอนามัย และมีระบบคัดกรองก่อนเข้าอาคารหรือสำนักงาน