ผู้ว่าฯ “บุรีรัมย์” สั่งปิดตาย 3 หมู่บ้าน หลังยอดติดเชื้อ “โควิด” วันเดียวพุ่ง 4 ราย

นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายแพทย์วิทิต สฤษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า มาตรการการควบคุมโรคโควิด 19 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านมาได้ทำกันอย่างเข้มข้น ทั้งปิดเมือง ทั้งคัดกรอง และทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน  สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ แล้วเข้ามาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์

โดยการสั่งปิดหมู่บ้าน 3 หมู่บ้านในครั้งนี้ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ภายในวันเดียว และเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังทั้งหมู่บ้าน เพราะใช้วิถีชีวิตแบบชาวบ้านต่างจังหวัด ไปมาหาสู่กันง่าย และอยากจะให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง ของการรับผิดชอบต่อสังคม

ด้านนายแพทย์วิทิต สฤษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พบชาวต่างชาติวัย 69 ปี อาศัยอยู่กับภรรยาที่  อ.บ้านกรวด ติดเชื้อเป็นรายที่ 2 ซึ่งยังมีอาการหนักอยู่ในขณะนี้ โดยได้กักตัวภรรยาและลูก รวมถึงคนขับรถที่ขับไปรับที่กรุงเทพฯไว้ดูอาการ จนกระทั่งผลออกมาทราบว่าภรรยาและลูกสาววัย 12 ปี และคนขับรถติดเชื้อไปด้วย

นอกจากนี้ยังพบหญิงวัย 22 ปี ชาว ต.หนองคะครอง อ.ละหานทราย กลับมาจากทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับในกรุงเทพฯ ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 รายในวันเดียวกัน ซึ่งรายนี้น่าเป็นห่วง เพราะหลังจากกลับมาได้ไปร่วมฉลองกับเพื่อนหลายคน ต่อเนื่อง และยังออกไปร่วมงานศพ และงานบุญอีกหลายหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนผู้เกี่ยวให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้ติดตามดูอาการและความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์สาธารณสุข ยังกล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ได้นำตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจำนวน 15 คนที่คัดกรองได้ มากักตัวแยกที่สนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตแล้ว ภาพโดยรวมของจังหวัดบุรีรัมย์ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 9 ราย.
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัด มาตรการการควบคุมโรคโควิด 19 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านมาได้ทำกันอย่างเข้มข้น ทั้งปิดเมือง ทั้งคัดกรอง และทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน  สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ แล้วเข้ามาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์

ส่วนการสั่งปิดหมู่บ้าน 3 หมู่บ้านในครั้งนี้ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ภายในวันเดียว และเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังทั้งหมู่บ้าน เพราะใช้วิถีชีวิตแบบชาวบ้านต่างจังหวัด ไปมาหาสู่กันง่าย และอยากจะให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง ของการรับผิดชอบต่อสังคม

พร้อมสั่งการให้มีการปิดหมู่บ้านหัวถนนหมู่ที่ 7 ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และบ้านตากอง หมู่ที่ 7 และบ้านสระกลาง หมู่ที่ 12 ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ห้ามผู้ใดเข้าและออกหมู่บ้านโดยเด็ดขาดจนกว่าจะครบ 14 วัน