JAS-W3 เทรดกระฉูดรับวันแปลงสิทธิ ฟากหุ้นแม่ JAS วิ่งเฉียด 5 บาท
JAS-W3 เทรดกระฉูดรับวันแปลงสิทธิ ฟากหุ้นแม่ JAS วิ่งเฉียด 5 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าราคาหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ล่าสุด ณ เวลา 10.50 น. อยู่ที่ระดับ 4.92 บาท ปรับตัวขึ้น 0.34 บาท หรือ 7.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 576.09 ล้านบาท
ขณะเดียวกันใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 3 (JAS-W3) อยู่ที่ระดับ 1.37 บาท ปรับตัวขึ้น 0.41 บาท หรือ 42.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 232.68 ล้านบาท
ทั้งนี้การปรับตัวขึ้นของ JAS และ JAS-W3 ปรับตัวขึ้นแรง ต่อเนื่องจากวานนี้ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น ขณะที่วานนี้ (30 มี.ค. 2563) เป็นวันสุดท้ายที่นักลงทุนที่มี JAS-W3 สามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัท หลังจากเปิดให้แจ้งความจำนงในการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพในวันนี้ (31 มี.ค. 2563)
โดยมีอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิฯ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1.192 หุ้น ราคาการใช้สิทธิ 3.605 บาท/หุ้น และหลังแปลงสิทธิ JAS-W3 แล้วจะได้รับเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2562 ในอัตราระหว่าง 1.26-1.50 บาท/หุ้น
ด้าน นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แรงจูงใจในการใช้สิทธิแปลงสภาพ JAS-W3 เป็นหุ้นสามัญของ JAS ในครั้งนี้ คือ การใช้สิทธิเพื่อรอรับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว ทำให้ราคาหุ้นมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เพราะหากไม่ใช้สิทธิในครั้งนี้ก็จะไม่ได้รับเงินปันผลอีกแล้ว ดังนั้นแนะนำหากนักลงทุนที่มี JAS-W3 ให้ใช้สิทธิเพื่อรับเงินปันผล
ทั้งนี้ ในส่วนของหุ้น JAS ธุรกิจยังคงไปได้ เนื่องจากยังมีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ แต่แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาในปิดวานนี้ที่ 4.60 บาท ดังนั้นทำให้ราคาหุ้น JAS กลับมาดูน่าสนใจ
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อีกรายหนึ่ง กล่าวว่า JAS เป็นหุ้นไม่ปกติ เจ้าของทำอะไรอยู่ก็ไม่มีใครรู้ ดังนั้นนักลงทุนควรมีความระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากไม่ทราบเลยว่าผู้ถือหุ้นที่เชื่อว่ามี JAS-W3 จำนวนมาก จะใช้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือไม่
ทั้งนี้ JAS-W3 มีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ (6 ก.ค. 2558) ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ สามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ได้ในวันทำการสุดท้ายของทุก ๆ ไตรมาสของแต่ละปีปฏิทิน ยกเว้นวันทำการสุดท้ายของวันสิ้นไตรมาส 2/2563 ไม่ถือเป็นวันกำหนดการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
โดยวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 และกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย คือ วันที่ 3 ก.ค. 2563 เนื่องจากวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ มีอายุครบ 5 ปี คือ วันที่ 5 ก.ค. 2563 ซึ่งตรงกับวันหยุด จึงต้องเลื่อนกำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายเป็นวันดังกล่าว
ดังนั้นหากไม่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของ JAS ในครั้งนี้ นักลงทุนที่มีใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 3 (JAS-W3) จะสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของ JAS ได้อีกครั้งเดียว คือ วันที่ 3 ก.ค. 2563
ขณะเดียวกันวันกำหนดการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ในวันที่ 31 มี.ค. 2563 จะเกิดขึ้นก่อนวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 21 เม.ย. 2563 ดังนั้นจำนวนหุ้นสามัญของบริษัท ซึ่งจะนำมาคำนวณเงินปันผล และมูลค่าเงินปันผลจ่ายต่อหุ้นจะมีความแน่นอนภายหลังจากวันที่ 31 มี.ค. 2563 ซึ่งบริษัทจะรีบแจ้งให้นักลงทุนทราบโดยทั่วกันภายในไม่เกินวันที่ 3 เม.ย. 2563 เพื่อกำหนดมูลค่าเงินปันผลจ่ายต่อหุ้น เพื่อให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 เม.ย. 2563 สามารถพิจารณาเพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีได้ โดยในขณะนี้ JAS ยังไม่มีการประกาศเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2563 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด สำหรับงวดผลการดำเนินงานปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2562 ในอัตรา 1.26-1.50 บาท/หุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD หรือผู้ซื้อไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 20 เม.ย. 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พ.ค. 2563
โดยจะจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงสุด 1.50 บาท/หุ้น ในกรณีที่จำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เท่ากับ 8,210,367,374 หุ้น (จำนวนหุ้นปัจจุบัน) และอัตราต่ำสุด 1.26 บาท/หุ้น ในกรณีที่จำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เท่ากับ 9,708,895,696 หุ้น (ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ แจ้งความจำนงใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ คงเหลือทั้งจำนวนในวันที่ 31 มี.ค. 2563)