TPOLY บวก 5 วันติด! พุ่งอีก 11% คาดเก็งกำไรแผนธุรกิจโตเด่น-ราคาหุ้นต่ำบุ๊ก  

TPOLY บวก 5 วันติด! พุ่งอีก 11% คาดเก็งกำไรแผนธุรกิจโตเด่น-ราคาหุ้นต่ำบุ๊ก  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY ณ เวลา 11.49 น. อยู่ที่ระดับ 1.50 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 11.11% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.80 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรง 5 วันติด โดยนับตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.63 อยู่ที่ระดับ 1.20 บาท คาดเก็งกำไรแผนธุรกิจโตเด่นและราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี 2.88 บาท

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า ในปี 2562 ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจอาจไม่ค่อยสดใส แต่การดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในทุกธุรกิจ โดยมียอดขายรวม 3,798 ล้านบาท เติบโต 12% สินทรัพย์โตขึ้น 37%

ขณะที่หนี้สินโตขึ้น 60% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมาจากงานรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน (working cap) ที่เพิ่มขึ้นเป็นปกติ นอกนั้นเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของธุรกิจโรงไฟฟ้า 4 โรงที่กำลังจะไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) โดยสภาพคล่องในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก

ส่วนงบเดี่ยวธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยอดขาย 3,716 ล้านบาท เติบโตแบบโดดเด่นที่ 76% จากปีก่อนที่ 2,108 ล้านบาท โดยมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปีอยู่เกือบ 4,000 ล้านบาท แม้ว่าจะตัดงาน IOT ออกไป ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเป้า Backlog เพิ่ม อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงกลางๆ ปี หรือเร็วกว่านั้น คาดว่าจะได้รับข่าวดีคือการได้งานเพิ่มกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานก่อสร้างอาคารโรงแรมขนาดใหญ่

ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าซึ่งจะรับรู้จากบริษัทในเครือคือ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH คาดว่ายอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 4 โรง คือ โรงไฟฟ้าปัตตานี, TPCH 1, TPCH 2 และ TPCH 5 หากรวมของเดิม 6 โรง ที่จะขายไฟได้เต็มปี และอีก 4 โรงที่ขายไฟเพิ่มได้อีกอย่างน้อย 7 เดือน รวมเป็น 10 โรง ผลักดันยอดขายรวมทุกธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย Margin คาดว่าจะดีกว่าปีก่อน จากสัดส่วนรายได้ต่อรายได้รวมของโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้น

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมทั้งรับเหมาก่อสร้างและโรงไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 น้อยมาก โดยอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างยังคงได้รับอานิสงส์จากเมกะโปรเจค และ EEC ซึ่งจะทำให้เกิดโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนผุดขึ้นอีกมาก อาจจะมีการเลื่อน Bidding ไปบ้างแต่ก็ไม่มาก

ขณะที่โรงไฟฟ้าก็สามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ตามสัญญาการขายไฟให้กับการไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 โดยมีแผนปฏิบัติการที่เคร่งครัด และรัดกุม ทั้งภายในสำนักงานใหญ่และทุกๆ Project ของบริษัทฯ จนถึงขณะนี้ทั้งผู้บริหารและพนักงานยังไม่มีใครได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้

Back to top button