“ทรัมป์”-“ปูติน” ส่งผู้แทนเจรจารักษาเสถียรภาพน้ำมัน หลังราคาดิ่งหนักรอบ 18 ปี วานนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างอิงคำกล่าวจากรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 มี.ค.63) โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกิจการพลังงานของประเทศเพื่อร่วมเจรจาหาแนวทางรักษาเสถียรภาพให้กับราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่ราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 18 ปีเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกประสบภาวะถดถอย ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินยังได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแถลงการณ์ระบุว่า “ปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินหารือกันเกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุด และความพยายามในการเอาชนะโควิด-19 โดยจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดผ่านกลุ่ม G20 เพื่อขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือของประเทศต่างๆในการเอาชนะโรคระบาด และฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก”

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2

ด้านเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้มีการเจรจากับรัสเซียเพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน แม้นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ พยายามโน้มน้าวให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ยุติการทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย

อย่างไรก็ดี ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียแถลงว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ 600,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.

อนึ่ง บริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ประกาศก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน