GPI ทุ่ม 250 ลบ. ซื้อหุ้น “True Energy” กว่า 24% แตกไลน์รุกธุรกิจรฟฟ.ขยะชุมชน
GPI ทุ่ม 250 ลบ. ซื้อหุ้น "True Energy" กว่า 24% แตกไลน์รุกธุรกิจรฟฟ.ขยะชุมชน
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) มีมติให้บริษัทเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด (True Energy) จำนวน 700,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25.45% ด้วยมูลค่า 250 ล้านบาท โดย True Energy เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขยะชุมชน ขนาด 9 เมกะวัตต์ (MW) ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 3/63
โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีสัญญาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เวลา 5 ปี และต่ออายุสัญญาโดยอัตโนมัติต่อเนื่องครั้งละ 5 ปี โดยได้รับอัตราส่วนเพิ่ม (adder) จำนวน 3.50 บาท/หน่วย เป็นระยะเวลา 7 ปี และหลังจากนั้นราคารับซื้อจะเป็นตามราคารับซื้อพื้นฐานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนครั้งนี้เป็นการลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากกลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยเป็นการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าซึ่งสามารถสร้างรายได้ที่แน่นอน มั่นคง และต่อเนื่องระยะยาวให้กับบริษัท นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทยังได้พิจารณาถึงผลตอบแทนการลงทุนแล้วเห็นว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ภายใต้ความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ อีกทั้งยังส่งผลดีต่องบการเงินรวมของบริษัทจากการที่ True Energy มีสถานะเป็นบริษัทร่วมของบริษัท
สำหรับการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นเดิมจากผู้ถือหุ้นเดิมของ True Energy คือ นายจำรัส เตชะนิธิ (ผู้ขาย) จำนวน 450,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็น 16.36% มูลค่า 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย.63
ส่วนที่สอง บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ True Energy จำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็น 9.09% มูลค่ารวม 200 ล้านบาท โดยการเข้าทำรายการส่วนที่ 2 จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ขายสามารถแสดงให้บริษัทมีความมั่นใจได้ว่า True Energy มีแหล่งเงินทุนที่จะต้องใช้ในการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าของ True Energy ซึ่งคาดว่าการเข้าทำรายการส่วนนี้จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 พ.ค. แต่ไม่เกินกว่าวันที่ 30 มิ.ย.63
ทั้งนี้ ภายหลังจากการเข้าทำรายการส่วนที่ 2 ผู้ขายจะดำนินการใด ๆ เพื่อให้ True Energy ได้มาซึ่งโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินจำนวน 2 แปลง ได้แก่ ที่ดินโฉนดเลขที่ 13052 และ 28419 ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จาก บริษัท ป่าสัก คลีน เพาเวอร์ จำกัด (ป่าสัก) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดยผู้ขาย โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำที่จะใช้ในการดำเนินการโรงไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน True Energy จะดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 32066 ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลลำพยา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ True Energy ให้กับ ป่าสัก โดยที่ดินดังกล่าว True Energy มิได้ใช้ประโยชน์สำหรับประกอบกิจการโรงไฟฟ้า
สำหรับ True Energy มีคดีความอันอาจมีผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของใบอนุญาต โดยถูกประชาชนตำบลหนองกลับและตำบลหนองบัวฟ้องเป็นผู้ถูกฟ้องคดีในศาลปกครองนครสวรรค์ ร่วมกับหน่วยงานรัฐ โดยศาลฯได้นั่งพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 13 มี.ค.63 ซึ่งผลของคดีดังกล่าวอาจมีผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของใบอนุญาตและการดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นสำหรับการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าของผู้จะขาย ได้แก่ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (อ.1) , คำสั่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชนิดเชื้อเพลิงเกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) และกระบวนการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.60 (สำหรับประกอบการขออนุญาตผลิตไฟฟ้า)
สำหรับแหล่งเงินทุนในการเข้าซื้อหุ้นใน True Energy นั้น บริษัทจะชำระด้วยเงินสดซึ่งจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท