หุ้น “ตระกูลป.” วิ่งยกแผง หลังน้ำมันดิบพุ่ง-แผนดัน “OR” เข้าตลาดคืบ!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10.20 น. ราคาหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ณ เวลา 15.12 น. อยู่ที่ระดับ 34.25 บาท บวก 4 บาท หรือ 13.22% สูงสุดที่ระดับ 34.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.04 พันล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 15.12 น. อยู่ที่ระดับ 76.25 บาท บวก 9.25 บาท หรือ 13.81% สูงสุดที่ระดับ 76.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 68.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.77 พันล้านบาท

เช่นเดียวกับราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ณ เวลา 15.12 น. อยู่ที่ระดับ 35 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 12% สูงสุดที่ระดับ 35.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 31.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.33 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยราคาน้ำมันดิบ ณ เวลา 15.07 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.87 ดอลลาร์ หรือ 9.21% แตะที่ 22.18 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงมุมมองเป็นบวกว่า สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะยุติลงในที่สุด

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของปธน.ทรัมป์ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามราคาน้ำมัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2

อีกทั้ง ความคาดหวังต่อผลการดำเนินงานที่จะได้รับกำไรจากการระดมทุนขาย IPO ของบริษัทย่อย อย่าง บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR  หลัง PTT เปิดเผยว่ามีการยื่นไฟลิ่งเพื่อเตรียมส่ง OR เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว

โดย PTT ระบุว่า ในวันนี้ (2 เม.ย.) OR ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTT ได้ยื่นคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งรวมไปถึงการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ร่างหนังสือชี้ชวน) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

อนึ่ง การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO ของ OR ในครั้งนี้ OR จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 2,700 ล้านหุ้น (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกินสำหรับการให้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน) โดย OR จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ PTT เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน PTT เพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive Rights)

ทั้งนี้ หากมีความต้องการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ OR เสนอขายทั้งหมด อาจมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพิ่มเติมในจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) เพื่อการส่งคืนหุ้นที่ยืมจาก PTT ในการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (หากมี) ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR นั้น PTT จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ OR โดยจะถือหุ้นของ OR ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของ OR

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ OR ดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อ OR ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนมีผลใช้บังคับ และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ที่ OR จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของ OR