“ดาวน์โจนส์” ปิดพุ่งแรง 8% หนุน “เอเชีย” เช้านี้สดใสต่อทั้ง “นิกเกอิ-คอสปี้-สิงคโปร์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1,600 จุดเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใกล้จะถึงจุดสูงสุด หลังจากข้อมูลเผยให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐและหลายประเทศในยุโรป ชะลอตัวลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,679.99 จุด พุ่งขึ้น 1,627.46 จุด หรือ +7.73% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,663.68 จุด เพิ่มขึ้น 175.03 จุด หรือ +7.03% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,913.24 จุด เพิ่มขึ้น 540.15 จุด หรือ +7.33%

ด้านดัชนีดาวโจนส์, ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ต่างก็ปิดพุ่งขึ้นกว่า 7% เมื่อคืนนี้ หลังจากข้อมูลในช่วงสุดสัปดาห์เผยให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงแตะ 8.2% จาก 12.3% นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 594 ราย น้อยกว่าตัวเลขในวันเสาร์ซึ่งอยู่ที่ 630 ราย และนับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กปรับตัวลดลง

ส่วนสถานการณ์ในยุโรปก็ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นเช่นกัน โดยอิตาลีมีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในรอบกว่าสองสัปดาห์ ด้านสเปนมีผู้เสียชีวิตลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ส่วนฝรั่งเศสรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดในรอบห้าวัน

ทั้งนี้ หุ้นของบริษัททั้ง 30 แห่งที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการคำนวณดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นทั้งหมด ซึ่งรวมถึงหุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 19.7% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 8.7% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บวก 4.17% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวก 7.5% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 6.07% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 5.12% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 7.06% หุ้นไฟเซอร์ บวก 2.7% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 7.4%

เช่นเดียวกับหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนได้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นว่า เจพีมอร์แกนมีฐานเงินทุนที้เพียงพอในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะถึงขั้นเลวร้ายที่สุด

ด้านหุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญรายใหญ่ พุ่งขึ้น 20% หลังจากกองทุน Public Investment Fund ในซาอุดีอาระเบียได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 8.2% ในบริษัทคาร์นิวัล ซึ่งจะทำให้กองทุนแห่งนี้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสาม

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ., รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.

อนึ่ง ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 22,679.99 จุด เพิ่มขึ้น 1,627.46 จุด, +7.73%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,663.68 จุด เพิ่มขึ้น 175.03 จุด, +7.03%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,913.24 จุด เพิ่มขึ้น 540.15 จุด, +7.33%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,075.17 จุด เพิ่มขึ้น 549.40 จุด, +5.77%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,582.39 จุด เพิ่มขึ้น 166.89 จุด, +3.08%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,346.14 จุด เพิ่มขึ้น 191.56 จุด, +4.61%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,470.59 จุด เพิ่มขึ้น 81.30 จุด, +3.40%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,341.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.04 จุด, +0.83%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,811.83 จุด เพิ่มขึ้น 188.40 จุด, +4.07%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,749.12 จุด เพิ่มขึ้น 513.01 จุด, +2.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,570.81 จุด เพิ่มขึ้น 223.84 จุด, +4.19%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,791.88 จุด เพิ่มขึ้น 66.44 จุด, +3.85%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,576.30 จุด เพิ่มขึ้น 756.11 จุด, +4.24%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,818.74 จุด เพิ่มขึ้น 155.11 จุด, +1.61%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 1,791.88 จุด เพิ่มขึ้น 66.44 จุด, +3.85%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,323.60 จุด เพิ่มขึ้น 216.70 จุด, +4.24%

ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดทำการวานนี้ (6 เม.ย.) เนื่องในวันมหาวีรชยันติ

ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวานนี้ (6 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง