MAJOR หั่นปันผลเหลือ 0.35 บ. รักษาสภาพคล่องเงินสด หลังโควิดกระทบหนัก
MAJOR หั่นปันผลเหลือ 0.35 บ. รักษาสภาพคล่องเงินสด หลังโควิดกระทบหนัก
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) อนุมัติปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่สอง สำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 62 ตามงบการเงิน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยลดลง 50% จากอัตราเดิมที่ได้อนุมัติไว้ 0.70 บาท/หุ้น เป็นอัตราใหม่ที่หุ้นละ 0.35 บาท/หุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 15 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2563
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกของปี 62 ที่คณะกรรมการมีมติแล้วเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผล สะสมในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท
สำหรับสาเหตุการปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายในวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทต้องปิดให้บริการชั่วคราวสำหรับโรงภาพยนตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้สถานการณ์ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งป็นเหตกุรณ์ที่มีความผันผวนตลอดเวลาจนไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นอย่างไร การบริหารสภาพคล่องและกระแสเงินสด จึงเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพื่อสำรองเงินไว้ในการดำรงสภาพคล่องของกิจการ และรักษาผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาวต่อไปจึงเห็นควรปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผลครั้งนี้