ตลท.หนุนรัฐใช้กองทุน BSF เสริมสภาพคล่อง-รักษาเสถียรภาพตลาดทุน
ตลท.หนุนรัฐใช้กองทุน BSF เสริมสภาพคล่อง-รักษาเสถียรภาพตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการขาดสภาพคล่องในระยะสั้น และอาจนำมาสู่การผิดนัดชำระของบางบริษัทในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นแหล่งการระดมทุนของธุรกิจและแหล่งการออมที่สำคัญที่ต่อเชื่อมกับระบบการเงินของประเทศ
ดังนั้น การที่ภาครัฐได้เข้ามาดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งกองทุน Corporate Bond Stabilization Fund (BSF) วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท ถือเป็นมาตรการที่เหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์ในสถานการณ์ปัจจุบัน อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดตราสารหนี้และตลาดการเงินโดยรวม โดยมาตรการดังกล่าว สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติในการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินของธนาคารกลางใหญ่ ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และ ญี่ปุ่น
โดย กองทุน BSF จะทำหน้าที่ช่วยเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี และมีแผนการจัดหาเงินทุนในระยะยาว ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้แล้ว ยังจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจในวงกว้าง อันจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดเงิน ตลาดทุนและเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย
ทั้งนี้ ตลท.ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง โดยได้ติดตามสถานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด และส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเตรียมพร้อมรับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ตลท.ยังได้ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ร่วมตลาดทุน ทั้งบริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่กระจายของโรคระบาดในครั้งนี้ โดยหวังว่าเหตุการณ์นี้จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนสามารถรอดพ้นจากวิกฤติ และสามารถกลับมาร่วมสร้างเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป