“สธ.” ปลดล็อก “รพ.เอกชน” ออกตรวจคัดกรอง-หาเชื้อ “โควิด-19” ถึงบ้าน!

"กระทรวงสาธารณสุข" (สธ.)​ ปลดล็อก "รพ.เอกชน" ออกตรวจคัดกรอง-หาเชื้อ "โควิด-19" ถึงบ้าน!


นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)​ ที่มีมาตั้งแต่เดือนม.ค.63 ส่งผลให้ทั่วโลกมีผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 1,500,000 ราย

สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยสะสมกว่า 2,500 ราย ทำให้พี่น้องประชาชนต่างเกิดความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว และในบางรายที่เคยพบปะ หรือมีกิจกรรมร่วมกับผู้ป่วยโควิด-19 ยิ่งเกิดความวิตกกังวล อยากตรวจสอบว่าตนติดเชื้อหรือไม่ แต่ทั้งนี้อาจจะไม่สะดวกในการเดินทางจากที่พักไปสถานพยาบาล ด้วยเกรงว่าอาจเกิดการแพร่กระจายโรค

ดังนั้น การตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดโควิด-19 นอกสถานที่ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการกำหนดแนวทางให้สถานพยาบาลได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง บนมาตรฐานเดียวกัน

โดยเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ทาง สบส.จึงได้ออกประกาศ เรื่อง “แนวทางการให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) นอกสถานพยาบาล” ช่วยปลดล็อกให้สถานพยาบาลเอกชนสามารถออกให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ณ ที่พักผู้ป่วยเป็นการชั่วคราวได้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค

สำหรับการออกให้บริการนอกสถานที่ของสถานพยาบาลในกรณีข้างต้นนั้น อนุญาตให้ดำเนินการเฉพาะการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ห้ามให้บริการทางการแพทย์ประเภทอื่นๆ อาทิ การเสริมความงาม ฉีดวิตามิน หรือบริการอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 โดยเด็ดขาด

ด้านทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้กำหนดให้การให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดโรคโควิด-19 นอกสถานพยาบาลหรือนอกสถานที่ กรณีดำเนินการโดยสถานพยาบาลเอกชนสามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ

โดยสามารถดำเนินการ ณ ที่พักผู้ป่วยเป็นการชั่วคราว ไม่ได้กระทำเป็นปกติธุระ ด้วยผู้ป่วยไม่สามารถมารับบริการที่สถานพยาบาลได้ เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวทาง ดังนี้

1.ผู้รับบริการเป็นผู้ป่วยกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

2.ผู้ให้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และต้องดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพ

3.กรณีการให้บริการโดยใช้ชุดตรวจภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

และ 4.การส่งสิ่งส่งตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะต้องส่งตรวจในห้องปฏิบัติการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้การรับรอง ตามประกาศกรม สบส.เรื่อง แนวทางการให้บริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 93 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นเขตกรุงเทพและปริมณฑล 43 แห่ง และต่างจังหวัด 50 แห่ง

Back to top button