“โควิด” พ่นพิษ! ฉุดผดส. “บีทีเอส” ไตรมาส 4 วูบกว่า 17%
“โควิด” พ่นพิษ! ฉุดผดส. “บีทีเอส” ไตรมาส 4 วูบกว่า 17%
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) แจ้งผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS ลดลง
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสาร BTS สำหรับไตรมาส 4 ปี 62/63 (ม.ค.-มี.ค.63) อยู่ที่ 50.4 ล้านเที่ยว ลดลง 17.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาเป็นรายเดือนเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะพบว่าจำนวนผู้โดยสารในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 20.8 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้น 0.2%, เดือน ก.พ.อยู่ที่ 17.9 ล้านเที่ยว ลดลง 5.7% และเดือน มี.ค. อยู่ที่ 11.7 ล้านเที่ยว ลดลง 45.2%
โดยการปรับตัวลดลงของจำนวนผู้โดยสารเป็นผลสืบเนื่องจากการที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศ เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ประกาศ ณ วันที่ 17 มี.ค.63 และประกาศอื่น ๆ ตามมา อีกทั้งยังขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่เชื้อ
นอกจากนี้ จากการที่รัฐบาลประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย.63 “ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น..”
ดังนั้น บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) ซึ่งเป็นผู้บริหารระบบรถไฟฟ้า BTS ของกองทุน จึงปรับเวลาให้บริการรถไฟฟ้า BTS จากเวลา 06.00 น. ถึง 24.00 น. เป็นเวลา 06.00 น. ถึง 21.30 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 63 เป็นต้นมา อีกทั้งยังมีประกาศเลื่อนการเปิดเรียนของสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค.63 ทำให้คาดว่าจำนวนผู้โดยสารน่าจะลดลงอีกตามมาตรการของรัฐบาล และอาจลดลงอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง บริษัทจัดการ เชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารจะกลับมาสู่สภาวะปกติ และสามารถจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยได้ตามปกติ นอกจากนี้ในอนาคตจำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้บริการของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และการเปิดส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือเต็มรูปแบบ (สถานีห้าแยกลาดพร้าว ถึงสถานีคูคต) รวมถึงเส้นทางในอนาคตที่จะเพิ่มขึ้นด้วย