สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 เม.ย. 2563

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรุดตัวลงแตะระดับติดลบเป็นครั้งแรก ซึ่งได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย โดยปัจจัยดังกล่าวได้บดบังรายงานเชิงบวกที่ว่า รัฐบาลในหลายประเทศเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งข่าวทำเนียบขาวและสภาคองเกรสใกล้บรรลุข้อตกลงในการปล่อยสินเชื่อรอบที่ 2 ให้กับธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,650.44 จุด ร่วงลง 592.05 จุด หรือ -2.44% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,823.16 จุด ลดลง 51.40 จุด หรือ -1.79% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,560.73 จุด ลดลง 89.41 จุด หรือ -1.03%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หลังจากมีรายงานข่าวว่าบริษัทโนวาร์ติสของสวิตเซอร์แลนด์ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ให้ทดลองยา hydroxychloroquine ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรียในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.67% ปิดที่ 335.70 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,528.30 จุด เพิ่มขึ้น 29.30 จุด หรือ +0.65%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,675.90 จุด เพิ่มขึ้น 50.12 จุด หรือ +0.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,812.83 จุด เพิ่มขึ้น 25.87 จุด หรือ +0.45%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) หลังการซื้อขายที่ผันผวน โดยหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มเวชภัณฑ์ช่วยหนุนตลาด แต่การร่วงลงของราคาน้ำมัน และความวิตกเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน ก็ยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,812.83 จุด เพิ่มขึ้น 25.87 จุด หรือ +0.45%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่คลังน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 8.94% ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,711.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 31.9 เซนต์ หรือ 2.09% ปิดที่ 15.614 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 796 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 2,127.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องมากที่สุด หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนัก รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.64 เยน จากระดับ 107.59 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9678 ฟรังก์ จากระดับ 0.9676 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4133 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4022 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0861 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0867 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2445 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2482 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6348 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6353 ดอลลาร์สหรัฐ