หุ้นเอเชียเปิดร่วง วิตกราคาน้ำมันดิ่งติดลบ เซ่นมาตรการ “ล็อกดาวน์” ทั่วโลกฉุดดีมานด์วูบ
หุ้นเอเชียเปิดร่วง วิตกราคาน้ำมันดิ่งติดลบ เซ่นมาตรการ “ล็อกดาวน์” ทั่วโลกฉุดดีมานด์วูบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรุดตัวลงแตะระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันในตลาด NYMEX เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทรุดตัวลง
โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,479.83 จุด ลดลง 189.29 จุด, -0.96%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,842.24 จุด ลดลง 10.31 จุด, -0.36%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,247.84 จุด ลดลง 82.18 จุด, -0.34%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,544.80 จุด ลดลง 41.91 จุด, -0.40%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,886.78 จุด ลดลง 11.58 จุด, -0.61%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,591.98 จุด ลดลง 5.87 จุด, -0.23%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,407.23 จุด ลดลง 5.89 จุด, -0.42%
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) ซึ่งถือว่าร่วงลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันในตลาด NYMEX
ขณะที่ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกรายงานเตือนว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง 29 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี เนื่องจากประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังแสดงความเห็นว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา