“มูดีส์” หั่นความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ไทยเหลือ “Stable” เซ่นศก.ถดถอย
"มูดีส์" หั่นความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ไทยเหลือ “Stable” เซ่นศก.ถดถอย
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับผู้ออกตราสารหนี้ของรัฐบาลไทยจาก “เชิงบวก”เป็น “มีเสถียรภาพ” หรือ “Stable” และยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรไม่มีหลักประกันสกุลเงินท้องถิ่น (local currency senior unsecured ratings) และอันดับผู้ออกตราสารหนี้ไว้ที่ระดับ Baa1
นอกจากนี้ยังยืนยันอันดับตราการค้าสกุลเงินต่างประเทศ (foreign currency commercial paper rating) ที่อันดับ P-2. การตัดสินใจเพื่อเปลี่ยนแนวโน้มสู่ระดับ “มีเสถียรภาพ”สะท้อนว่า แรงขับเคลื่อนที่ส่งผลให้มูดีส์เปลี่ยนมุมมองเป็น “เชิงบวก” ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้นเริ่มที่จะเป็นจริงได้ยาก เนืองจากมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านดังนี้
ความตึงเครียดทางการเมืองยังคงอยู่และแนวโน้มเศรษฐกิจรุนแรง
เนื่องจาก มีความล่าช้าในการดำเนินนโยบายและความตึงเครียดทางการเมืองยังคงมีอยู่ และ วิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงซึ่งเกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนา นโยบายของรัฐบาลไม่น่าจะทำให้เกิดการลงทุนปริมาณมากอย่างมีประสิทธิภาพในทางกายภาพและด้านขีดความสามารถของมนุษย์ที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันในระยะใกล้จนถึงระยะกลาง
การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขึ้นของไวรัสโคโรนา แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลง และการปรับตัวลงของราคาสินทรัพย์ กำลังทำให้เกิดวิกฤติสินเชื่ออย่างรุนแรงและเพิ่มมากขึ้นในหลายๆภาค ภูมิภาค และตลาด
ผลกระทบด้านสินเชื่อของพัฒนาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน มูดีส์ถือว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นความเสี่ยงทางสังคมที่อยู่ภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social and Governance หรือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ของมูดีส์ เมื่อคำนึงถึงว่า มีผลกระทบมากต่อควาปลอดภัยและสุขภาพของประชาชน
นักท่องเที่ยวลดลงอย่างรุนแรง
สำหรับประเทศไทย วิกฤติในขณะนี้ส่วนใหญ่ส่งผ่านการชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของนักท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การลงทุนด้านสาธารณูปโภคในระยะยาวจะล่าช้าออกไปอีกเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโฟกัสของนโยบายเพื่อชดเชยผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจ ประกอบกับมีความลำบากอย่างชัดเจนในการออกแบบและสนับสนุนนโยบายสำหรับรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน
การยืนยันอันดับประเทศไทยที่ Baa1 สะท้อนว่า มูดีส์มองว่าฐานะการเงินภายนอกและของรัฐที่มีความแข็งแกร่งทำให้ประเทศไทยมีโอกาสมากที่จะต่อสู้กับวิกฤติ ซึ่งรวมถึงโอกาสที่จะหลุดพ้นจากไวรัสโคโรนา
ประวัติในการวัดด้านการคลังอันแข็งแกร่งในอดีตของประเทศไทย ชี้ว่าน่าจะต้องซ่อมแซมทางการคลังหลังจากที่รัฐบาลได้เพิ่มภาระหนี้มากในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า นอกจากนี้มูดีส์คาดว่า เศรษฐกิจที่ใหญ่และมีความหลากหลายของประเทศไทยจะดูดซับวิกฤติในปัจจุบันไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยไม่มีผลกระทบเป็นการถาวรต่อแนวโน้มในการเติบโต
ความสามารถในการแข่งขันปานกลางและขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ
คุณสมบัติของความน่าเชื่อถือเหล่านี้สมดุลกับประชากรสูงอายุ ความสามารถในการแข่งขันปานกลาง และขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะกลางจนถึงระยะยาวหากไม่แก้ไข
มูดี้ส์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพดานของประเทศไทย โดยเพดานพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินต่างชาติยังคงอยู่ที่ A2 และเพดานพันธบัตรระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศอยู่ที่ P-1 ส่วนเพดานเงินฝากระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศยังคงอยู่ที่ Baa1และเพดานเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ อยู่ที่ P-2 นอกจากนี้ เพดานเงินฝากและพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินท้องถิ่นยังไม่เปลี่ยนแปลงโดยอยู่ที่ A1