สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 เม.ย. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 เม.ย. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความหวังที่ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะผ่านมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า ยา remdesivir ของบริษัท Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,515.26 จุด เพิ่มขึ้น 39.44 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,797.80 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.05% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,494.75 จุด ลดลง 0.63 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตารอการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน เนื่องจากการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักในเดือนเม.ย.
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.94% ปิดที่ 333.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,451.00 จุด เพิ่มขึ้น 39.20 จุด หรือ +0.89%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,513.79 จุด เพิ่มขึ้น 98.76 จุด หรือ +0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,826.61 จุด เพิ่มขึ้น 55.98 จุด หรือ +0.97%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสัญญาณบ่งชี้ว่า กลุ่มก่อสร้างบ้านของอังกฤษกำลังวางแผนที่จะเริ่มการดำเนินงานอีกครั้ง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,826.61 จุด เพิ่มขึ้น 55.98 จุด หรือ +0.97%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 20% เมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากอิหร่านขู่ว่าจะทำลายเรือรบสหรัฐหากเป็นภัยคุกคามความมั่นคง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก ท่ามกลางการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ หรือ 19.7% ปิดที่ 16.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 4.7% ปิดที่ 21.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงตัวเลขชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.1 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,745.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 15.357 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22.7 ดอลลาร์ หรือ 2.97% ปิดที่ 788 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 108.80 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 2,001 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงตัวเลขชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นเกินคาด และยอดขายบ้านใหม่ที่ทรุดตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 6 ปี เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9761 ฟรังก์ จากระดับ 0.9721 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.60 เยน จากระดับ 107.71 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4047 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4185 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0785 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0820 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2354 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2315 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6385 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6321 ดอลลาร์สหรัฐ