“เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง” ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 160 ล้านหุ้น ลงเทรด SET
"เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง" ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 160 ล้านหุ้น ลงเทรด SET ระดมทุนซื้อเครื่องจักร-ขยายคลังสินค้า
บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ โดยมี บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์
สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดในครั้งนี้ไม่มีการเสนอขายให้กับผู้จองซื้อรายย่อยหรือประชาชนเป็นการทั่วไป เนื่องจากจำนวนหลักทรัพย์มีจำกัด โดยแบ่งการเสนอขายเป็น 1.เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 131.00 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.83% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด 2.เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 24.00 ล้านหุ้น คิดเป็น 4% และ 3.เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท 5.00 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.83%
ทั้งนี้ บริษัทมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ในช่วงปี 63-64 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน, ขยายคลังสินค้า และซื้อเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับใช้ในงานก่อสร้าง
โดย เวล เกรดฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างประเภทต่างๆ ทั้งงานภาครัฐและเอกชน อาทิคอนโดมิเนียม โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ครอบคลุมถึงงานวิศวกรรมโยธา งานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารและงานภูมิสถาปัตย์ รวมไปถึงงานก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภคตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยบริษัทเป็นทั้งผู้รับจ้างโดยตรง (Main Contractor) และผู้รับจ้างเหมาช่วง (Sub Contractor) เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างรายได้ตามประเภทของงานก่อสร้างสามารถจำแนกตามลักษณะงานได้ ดังนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังแสวงหาโอกาสเพื่อที่จะเข้าประมูลงานประเภทอื่น อาทิเช่น งานประเภทโรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้างประเภทโรงแรม งานก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมทั้งบริษัทยังให้บริการงานประเภทอื่นที่เป็นส่วนงานสนับสนุน อาทิ งานปรับปรุงรีโนเวท งานตกแต่งภายใน งานเหล็กและพรีคาสท์ เป็นต้น
อีกทั้งยังบริษัทมีโครงการในอนาคตที่จะลงทุนขยายคลังสินค้าให้สอดคล้องกับแผนเข้ารับงานโครงการในอนาคตและการบริการครบวงจร รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาความรู้ความสามารถในการควบคุมงานโครงการก่อสร้าง พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนลงทุนในเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับใช้ในงานก่อสร้างเพิ่มเติม อาทิ ปั้นจั่น รถแม็คโคร รถเครน รถตัก รถบดดิน เป็นต้น ภายในปี 63-64 เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้ารับงานโครงการ
โดย ณ วันที่ 7 เม.ย.63 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 220 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 440 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเต็มจำนวน
ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย กลุ่มบัวนุ่ม ถือหุ้น 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 81.82% หลังเสนอขาย IPO ครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 60.20%, นายวายุ ทองพูน ถือหุ้น 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.18% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 13.38%
สำหรับผลดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 60-62 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการก่อสร้าง 988.14 ล้านบาท, 1,290.11 ล้านบาท และ 1,506.94 ล้านบาทตามลำดับ เป็นผลจากการขยายตัวของฐานงานค้างรับ (Backlog) ขณะที่มีกำไรสุทธิ 63.84 ล้านบาท, 37.68 ล้านบาท และ 114.66 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้การปรับตัวลดลงของกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิในปี 61 เมื่อเทียบกับปี 60 มีสาเหตุหลักมาจากการส่งมอบพื้นที่งานก่อสร้างล่าช้า ทำให้กลุ่มบริษัทมีต้นทุนคงที่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บางโครงการมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงพื้นที่งานก่อสร้างเพิ่มเติมเกินกว่าคาด แต่ในปี 62 กำไรสูงขึ้น เกิดจากสัดส่วนการรับงานภาคเอกชนที่มากขึ้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น
โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 681.42 บ้านบาท หนี้สินรวม 388.90 ล้านบาท และ ส่วนผู้ถือหุ้น 292.53 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับงบการเงินรวมและหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้