SET ปิดเช้าดิ่ง 18 จุด หลัง “ทรัมป์” จ่อรีดภาษีนำเข้าจีนรอบใหม่ ลุ้นบ่ายรีบาวด์
SET ปิดเช้าดิ่ง 18 จุด หลัง "ทรัมป์" จ่อรีดภาษีนำเข้าจีนรอบใหม่ ลุ้นบ่ายรีบาวด์ โดยดัชนีช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,283.34 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือ 1.41% มูลค่าการซื้อขาย 2.86 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,283.34 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือ 1.41% มูลค่าการซื้อขาย 2.86 หมื่นล้านบาท
10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้
ด้านนักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง มองว่าเป็นการลงชดเชยในช่วงวันหยุดที่ตลาดปิดทำการไปแล้วตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวลงกันค่อนข้างมาก จากความกังวลหลังมีข่าวประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยวานนี้ตลาดในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงราว 2% แต่เช้านี้ก็ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เฉลี่ย +0.7% หลังลงไปมาก ซึ่งตลาดบ้านเราเช้านี้ปรับฐาน -1.5% ก็ถือว่าดีกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากได้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ มาช่วยพยุงตลาดฯไว้ โดยกลุ่มพลังงานฟื้นตัวนำโดยหุ้น PTTEP และกลุ่มแบงก์ที่ under perform พอควร ก็ได้มีแรงซื้อเข้ามานำโดย KBANK
ขณะที่หุ้นในกลุ่มค้าปลีกก็ได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินเข้าระบบ ทำให้สภาพคล่องดีขึ้น และบ้านเราก็สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดี พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก คงจะเน้นความช่วยเหลือบมจ.การบินไทย (THAI) เป็นหลัก และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้บ้าง โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,270-1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,295-1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,836.82 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,643.72 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,350.35 ล้านบาท ปิดที่ 84.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,259.67 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท ลดลง 0.20 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,256.09 ล้านบาท ปิดที่ 16.10 บาท ลดลง 1.40 บาท