JSP วิ่งสวนตลาด 9% หลังงบ Q2 สวยหรู-พร้อมปันผล-เตรียมเจรจาพันธมิตร

JSP วิ่งสวนตลาดกว่า 9% ณ เวลา 15.22 น. อยู่ที่ 1.74 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือ 8.75% สูงสุดที่ 1.76 บาท และต่ำสุดที่ 1.67 บาท มูลค่าซื้อขาย 100.91 ล้านบาท หลังงบ Q2/58 ออกมาสวยหรู พร้อมปันผล 0.08 บ/หุ้น XD 20 ส.ค.58 และผู้บริหารเตรียมเจรจากับ 2 พันธมิตรจีนเพื่อเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ณ เวลา 15.22 น. อยู่ที่ 1.74 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือ 8.75% สูงสุดที่ 1.76 บาท และต่ำสุดที่ 1.67 บาท มูลค่าซื้อขาย 100.91 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.22%

 

 

นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน JSP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรจากจีน 2 รายก่อนจะสรุปคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51%

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 5.22 พันล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 2.31 พันล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2.91 พันล้านบาทจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 59

ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8 พันล้านบาท คือโครงการคอนโดมิเนียมที่ ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ มูลค่า 4 พันล้านบาท จำนวน 1,000 ยูนิต และโครงการที่รังสิตคลอง 1 มูลค่า 4 พันล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดขายในไตรมาส 4/58 เพื่อทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องในช่วงปี 59-60

 

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 321.37 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.08 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 112% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 151.77 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2558 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2558 เป็นเงินสดจำนวน 0.08 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่ได้รับสิทธิปันผลในวันที่ 20 ส.ค. 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2558

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 567.78 ล้านบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 350.94 ล้านบาท หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น

Back to top button