“อนุทิน” ยก “เชียงใหม่” ได้มาตรฐาน บูรณาการรับมือ “โควิด” พร้อมเปิด รพ.สนาม 29 พ.ค.นี้
"อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ยก "เชียงใหม่" ได้มาตรฐาน บูรณาการรับมือ "โควิด" พร้อมเปิดรพ.สนาม 280 เตียง รองรับผู้ป่วย 29 พ.ค.นี้!
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปจ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการบูรณาการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลสันกำแพง โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 5 ธันวา 2554
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ในจ.เชียงใหม่ ได้บูรณาการเชื่อมโยงกันเป็นระบบตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วย การรักษา จนถึงส่งตัวกลับบ้านหรือชุมชน มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสันกำแพงทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรคโควิด-19 ประจำจังหวัด เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
แต่หากผู้ป่วยอาการวิกฤติจะมีโรงพยาบาลรองรับทั้งโรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และยังมีหอผู้ป่วยวิกฤติที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลประสาท กรมการแพทย์ กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีเตียง ICU รองรับจำนวน 22 เตียง
ส่วนกลุ่มผู้ติดเชื้อที่อาการไม่รุนแรง ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 280 เตียง โดยใช้ศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ เพื่อดูแลผู้ป่วยในระยะแรก และสามารถขยายได้ถึง 1,000 เตียงหากพบการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในระลอกสอง ซึ่งจะเริ่มเปิดดำเนินการในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
สำหรับโรงพยาบาลสนามแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เชื่อว่าจะรองรับระบบการดูแลผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลอื่นๆ ในจังหวัดได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกและเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญในภาคเหนือ มีนโยบายดำเนินการควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดี มาถึงวันนี้เป็นเวลา 35 วันแล้วที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งประสบการณ์ที่ได้จากการจัดการควบคุมป้องกันและรักษาโรคในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าจะนำไปต่อยอดให้ระบบสาธารณสุขของจังหวัดเชียงใหม่พร้อมรับมือหากมีการระบาดระลอกสองเกิดขึ้น
ดังนั้น หากมองอีกมุมจะเห็นว่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านระบบสาธารณสุขของประทศไทย ว่ามีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับสากล