“นายกฯ” ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ “โควิด” เลขาฯสมช.นั่งประธาน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกฯ" ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ "โควิด" เลขาฯสมช.นั่งประธาน


เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19)

โดยตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 63 และต่อมาได้มีประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 63 นั้น เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ดำเนินการไปโดยเป็นลำดับขั้นตอน ตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและผลการประเมินสถานการณ์ทางด้านสาธารณสุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีองค์ประกอบและหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

องค์ประกอบ

(1) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประธาน หัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19

(2) รองผู้บัญชาการทหารบก รองประธาน (พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์) รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19

(3) รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองประธาน ที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย

(4) ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรรมการ

(5) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรรมการ

(6) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน กรรมการ

(7) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ กรรมการ

(8) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กรรมการ

(9) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ กรรมการ

(10) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านคมนาคม และการขนส่งทั่วราชอาณาจักร กรรมการ

(11) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยา กรรมการ

(12) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า กรรมการ

(13) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์และการวิจัยและพัฒนา กรรมการ

(14) ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม กรรมการ

(15) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ

(16) ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด กรรมการ

(17) ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ อุดม คชินทร

(18) ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร กรรมการ

(19) นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการ

(20) นายสันติธาร เสถียรไทย กรรมการ

(21) รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ และ ที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมอบหมาย เลขานุการร่วม

(22) พลตรี ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ กรรมการ และ เลขานุการร่วม

(23) เจ้าหน้าที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ และ ผู้ช่วยเลขานุการ

(24) เจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ กรรมการ และ สังคมแห่งชาติ ผู้ช่วยเลขานุการ

(25) เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กรรมการ และ ผู้ช่วยเลขานุการ

ส่วนหน้าที่และอำนาจ ของคณะกรรมการชุดนี้ได้แก่

(1) ประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ กลั่นกรอง รวบรวมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะทางวิชาการ และข้อเสนอขอภาคส่วนต่าง ๆ และจัดทำแนวทางผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในทุกห้วงระยะเวลา 34 วัน เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

(2) จัดทำร่างข้อกำหนดเพื่อผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการตาม (1) รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติสำหรับกิจการหรือกิจกรรมที่ผ่อนคลาย

(3) ประสานการดำเนินการกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเชิญผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงความเห็น หรือส่งเอกสารหลักฐานใดๆที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา

(4) แต่งตั้งคณะอนุกรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐนตรีหรือศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 มอบหมายให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ตามคำสั่งนี้เป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2563

Back to top button