NH ขาดทุนบักโกรก 2 พันลบ. จับตา! วันนี้ MINT แจ้งงบ Q1/63 วันสุดท้าย ส่อกดดันหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท NH Hotel Group, S.A. ผู้ประกอบการโรงแรมชั้นนำของยุโรป อเมริกา และ แอฟริกา กว่า 30 ประเทศ และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เเมดริด (Madrid Stock Exchange) ประเทศสเปน ได้รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/63 มีผลขาดทุน 57 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.98 พันล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 34.6760 บาท ณ วันที่ 14 พ.ค.2563) เทียบกับไตรมาส 1/62 ที่แล้วที่ขาดทุน 14.7 ล้านยูโร หรือประมาณ 509.74 ล้านบาท

โดยมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 279 ล้านยูโร หรือประมาณ 9.67 พันล้านบาท ลดลง 20.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจทั้งหมดต้องหยุดลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในเดือนมี.ค. ขณะที่ RevPar หรือ Revenue Per Available Room ในไตรมาส 1 ลดลง 27.1% ส่วนอัตราการเข้าพัก หรือ occupancy rate ลดลง  27.1% อยู่ที่ 46.3%

สำหรับการที่ NH Hotel Group, S.A. ประกาศผลดำเนินงานออกมีผลขาดทุน ทำให้เป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะกระทบต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ในฐานะผู้ถือหุ้น NH Hotel Group, S.A. ในสัดส่วน 94.1% ซึ่งได้มีการเข้าลงทุนเมื่อช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา ทั้งนี้รายได้ของ MINT ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโรงแรม โดยคิดเป็นร้อยละ 70% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยในวันนี้ (15 พ.ค.) เป็นวันสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ มีรายงานตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในยุโรปรวม 1,691,176 ราย จากยอดติดเชื้อทั่วโลก 4,434,399 ราย และยอดผู้เสียชีวิต อยู่ที่ 158,665 ราย จากยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 299,946 ราย ส่วนประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 3,018 ราย และยอดผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า อยู่ระหว่างปรับประมาณการคำแนะนำและราคาเป้าหมายของ MINT แนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อน เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการของ MINT ยังคงขึ้นอยู่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ประเด็นสำคัญที่น่าเป็นห่วงก็คือภาระทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง และโครงสร้างรายได้ที่กระจุกตัวอยู่ในทวีปยุโรป (คิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวมของธุรกิจโรงแรม)

โดยคาดว่า MINT จะรายงานขาดทุนสุทธิที่ 756 ล้านบาทในไตรมาส 1/63 หนุนจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่าจะมีผลขาดทุนปกติที่ 1.5 พันล้านบาท จากที่มีกำไรปกติ 633 ล้านบาทในไตรมาส 1/62 และ 2.9 พันล้านบาทในไตรมาส 4/62