PIMO รายได้พุ่ง-รายจ่ายลด หนุนกำไรไตรมาส 1 กระฉูด 122% แตะ 20 ลบ.

PIMO รายได้พุ่ง-รายจ่ายลด หนุนกำไรไตรมาส 1 กระฉูด 122% แตะ 20 ลบ. จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมีกำไร 8.86 ลบ.


บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/63 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.63 ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าว มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้รวมจากงบการเงินรวม จำนวน 185.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2.21 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.20% และบริษัทมีรายได้รวมจากงบการเงินเฉพาะกิจการ จำนวน 185.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2.33 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.27% โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขาย จำนวน 179.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1.08 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.61% หลักใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายมอเตอร์สระและสปา และยอดขายมอเตอร์ปั๊มน้ำ (Axial – Flux pool) ที่จำหน่ายให้กับลูกค้าต่างประเทศ

สำหรับรายได้อื่นจากงบการเงินรวม มีมูลค่าเท่ากับ 6.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จำนวน 1.13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21.79% และรายได้อื่นจากงบการเงินเฉพาะกิจการ มีมูลค่าเท่ากับ 6.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1.24 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.60%

ขณะที่ต้นทุนขายจากงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ เท่ากับ 143.82 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 6.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.03% หลักใหญ่เกิดจากราคาวัตถุดิบหลักที่ลดลง ทำให้ต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายคิดเป็น 80.21% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนต่อรายได้จากการขายในไตรมาส 1/62 ที่ 84.09%

อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารจากงบการเงินรวม บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 12.87 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1.63 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.27% และค่าใช้จ่ายในการบริหารจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 12.87 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2.69 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.29% โดยหลักใหญ่ลดลงจากค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลูกหนี้ของบริษัทที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2.03 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาทางการเงินจำนวน 0.25 ล้านบาท และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 0.70 ล้านบาท

นอกจานี้ บริษัทมีหนี้สินรวมจากงบการเงินรวมและจากงบการเงินเฉพาะกิจการ จำนวน 169.54 ล้านบาท และจำนวน 169.46 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 จำนวน 20.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 10.79%

Back to top button