สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 900 จุด เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประเทศต่างๆเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยข่าวดังกล่าวได้ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,597.37 จุด พุ่งขึ้น 911.95 จุด หรือ +3.85% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,953.91 จุด เพิ่มขึ้น 90.21 จุด หรือ +3.15% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,234.83 จุด เพิ่มขึ้น 220.27 จุด หรือ +2.44%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 8 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นซึ่งปรับตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจทะยานขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และรายงานความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 4.07% ปิดที่ 341.59 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,058.87 จุด พุ่งขึ้น 593.70 จุด หรือ +5.67%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,498.34 จุด พุ่งขึ้น 220.71 จุด หรือ +5.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,048.59 จุดพุ่งขึ้น 248.82 จุด หรือ +4.29%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วขึ้นจากภาวะถดถอยที่เกิดจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,048.59 จุด พุ่งขึ้น 248.82 จุด หรือ +4.29%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนตลาดอย่างคึกคัก ก่อนที่สัญญาน้ำมัน WTI งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.จะครบอายุในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.39 ดอลลาร์ หรือ 8.1% ปิดที่ 31.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 7.1% ปิดที่ 34.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ปีนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นกว่า 900 จุด ขานรับข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 21.9 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 1,734.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 39.8 เซนต์ หรือ 2.33% ปิดที่ 17.468 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 52.2 ดอลลาร์ หรือ 6.39% ปิดที่ 869.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ทะยานขึ้น 169.20 ดอลลาร์ หรือ 9.1% ปิดที่ 2,027.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(18 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และแห่เข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากรัฐบาลของประเทศต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง0.74% สู่ระดับ 99.66 เมื่อคืนนี้
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0913 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0813 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2194 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2118 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6515 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6417 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3961 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4108 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.40 เยน จากระดับ 107.30 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9727 ฟรังก์ จากระดับ 0.9722 ฟรังก์