สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 พ.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 พ.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และจากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,575.90 จุด เพิ่มขึ้น 369.04 จุด หรือ +1.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,971.61 จุด เพิ่มขึ้น 48.67 จุด หรือ +1.67% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,375.78 จุด เพิ่มขึ้น 190.67 จุด หรือ +2.08%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยที่เกิดจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษช่วยหนุนตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,067.16 จุด เพิ่มขึ้น 64.93 จุด หรือ +1.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) และปิดที่ระดับแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งบวกขึ้นตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก หลังจากที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงแล้วเพื่อเปิดดำเนินการในภาคเศรษฐกิจต่างๆ อีกครั้ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.98% ปิดที่ 342.82 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,223.71 จุด เพิ่มขึ้น 148.42 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,496.98 จุด เพิ่มขึ้น 38.82 จุด หรือ +0.87% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,067.16 จุด เพิ่มขึ้น 64.93 จุด หรือ +1.08%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) ขานรับรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งความหวังที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น จากการที่รัฐบาลของประเทศต่างๆพากันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 33.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 2563
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 35.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2563
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ นอกจากนี้ กระแสความวิตกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,752.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 18.031 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 44.9 ดอลลาร์ หรือ 5.05% ปิดที่ 934.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 84.70 ดอลลาร์ หรือ 4.1% to $2,159.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมเดือนเม.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.48 เยน จากระดับ 107.72 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9647 ฟรังก์ จากระดับ 0.9709 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3891 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3886 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0984 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0945 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2230 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2281 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6600 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6567 ดอลลาร์สหรัฐ