“น้ำมันดิบ” ร่วงกว่า 4% วิตกสงครามการค้า-รัสเซียไม่หั่นกำลังการผลิต

"น้ำมันดิบ" ร่วงกว่า 4% วิตกสงครามการค้า-รัสเซียไม่หั่นกำลังการผลิต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงในเดือนก.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.43 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 34.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในฮ่องกง หลังจากนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้รายงานต่อสภาคองเกรสสหรัฐว่า ฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของนายปอมเปโออาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง ซึ่งได้รับการเอื้อประโยชน์ทางการค้ากับสหรัฐ โดยที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษีต่อสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยังคงเก็บภาษีต่อสินค้าที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐจากการที่ทั้งสองฝ่ายทำสงครามการค้าระหว่างกัน

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงในเดือนก.ค.

สำหรับในการประชุมโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.  นอกจากนี้ ที่ประชุมโอเปกพลัสยังมีมติปรับลดการผลิต 8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 และจะปรับลด 6 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 ไปจนถึงเดือนเม.ย. 2565

ทั้งนี้นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ค.

 

 

Back to top button