GL รุกขยายฐานใน CLMV เชื่อหนุนผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น
GL รุกขยายธุรกิจใน CLMV มากขึ้น เชื่อส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น ตั้งเป้าลด NPL ปีนี้ในประเทศไทยเหลือ 5%
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผยว่า การดำเนินยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจของบริษัทเข้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) นับว่าเริ่มเห็นผลสำเร็จอย่างชัดเจนแล้ว โดยคาดว่านับจากนี้บริษัทจะรุกคืบการขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมปรับตัวดีขึ้น
สำหรับธุรกิจในประเทศไทยนั้น บริษัทได้ดำเนินนโยบายเชิงอนุรักษ์เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยเน้นกลยุทธ์การปรับปรุงคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท และมียอดขายมอเตอร์ไซค์เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 4,500 คัน โดยบริษัทสามารถปรับลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มาอยู่ที่ระดับ 7% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 11% และมีเป้าหมายปรับลดให้เหลือ 5% ภายในสิ้นปีนี้
ส่วนผลประกอบการในประเทศกัมพูชานั้น บริษัทมียอดขายจากธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ Honda และเครื่องจักรกลทางการเกษตร Kubota เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีพอร์ตสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ทั้งสิ้นประมาณ 30,000 คันและสามารถทำยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 1,700-1,800 คัน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 4,000 คัน ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับธุรกิจในกัมพูชาถือว่ามีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยมีอัตรา NPL อยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.4% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอยู่ในระดับต่ำ คิดเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายในประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาระบบ E-Finance ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการประเมินเครดิตของลูกค้า โดยมีจุดให้บริการปล่อยสินเชื่อ (Point of Sales) ภายในร้านดีลเลอร์ Honda และ Kubota ทั่วกัมพูชาจำนวนกว่า 160 แห่ง ทั้งนี้เนื่องจากธุรกิจในกัมพูชามีศักยภาพขยายตัวได้อีกมาก จึงคาดว่าผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจในกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าประเทศไทยได้ภายในปีหน้า
ขณะเดียวกันธุรกิจเช่าซื้อใน สปป.ลาว ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะนี้ได้ขยายครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว โดยมีเครือข่าย Point of Sales จำนวน 40 แห่ง ในนครเวียงจันทน์และพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าผลประกอบการใน สปป.ลาว จะถึงจุดคุ้มทุนภายในเดือนกันยานนี้และจะเริ่มส่งผลกำไรให้บริษัทแม่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งนี้ธุรกิจเช่าซื้อใน สปป.ลาว ใช้ระยะเวลาสั้นมากก่อนถึงจุดคุ้มทุน เนื่องจากได้ใช้โมเดลของธุรกิจในกัมพูชาที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นต้นแบบ