สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 13 ส.ค.58
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.51 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 124.30/35 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1160 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1136/1140 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,404.15 จุด ลดลง 4.17 จุด หรือ 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 49,506.22 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,849.51 ล้านบาท (SET+MAI)
– นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ระบุการที่จีนใช้นโยบายปรับเงินหยวนให้อ่อนค่าลงมากเกิดผลกระทบต่อไทยในระดับหนึ่ง เนื่องจากจีนเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ การที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปแล้วราว 4.7% ทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าแน่นอน
ส่วนกรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังธนาคารกลางจีนปรับลดค่าเงินเงินหยวนนั้นคงไม่ใช่ตลาดหุ้นไทยเพียงประเทศเดียวที่ปรับตัวลดลง แต่ในหลายๆ ประเทศก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะอยู่ในระดับที่มากกว่าไทยด้วย
– นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่จีนได้ประกาศกำหนดค่าเงินหยวนที่อ่อนลงเทียบกับเงินดอลลาร์ว่า ธปท. ได้ติดตามพัฒนาการตลาดการเงินในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่พบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ตลาดการเงินในประเทศเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดการเงินในภูมิภาค
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นั้น ปรับตัวในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในโลก สำหรับผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินในขณะนี้
– นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดค่าเงินหยวนอาจจะส่งผลให้แนวโน้มส่งออกไทยอาจจะติดลบมากกว่า -3 ถึง -4% เพราะเศรษฐกิจโลกอาจจะชะงัก และชะลอการจับจ่ายใช้สอย แต่ก็เชื่อว่าการส่งออกไทยอาจจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า รัฐบาลจึงจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศแทนที่จะพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวที่คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบเพราะนักท่องเที่ยวจีนอาจจะระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะการลดค่าเงินหยวนอาจจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยได้ไม่เต็มที่
– นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะโฆษก สบน.เผยหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,682,490.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.36% ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 2,516.86 ล้านบาท
– พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เผยการปรับ ครม.จะเป็นการปรับทั้งหมดทุกกระทรวงเพื่อความเหมาะสม โดยจะมีการดึงคนนอกเข้ามาร่วมด้วย
– นายจาง เสี่ยวหุย ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เผยได้เสร็จสิ้นการปรับค่าเงินหยวนแล้ว ส่งผลให้เงินหยวนจะกลับสู่ระดับที่สอดคล้องกับตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากเงินหยวนร่วงลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และเงินหยวนจะยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว โดยจะไม่มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต
– นายยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เผยปัจจุบันจีนยังคงมีสภาพคล่องจำนวนมาก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัว แม้ดูจะต่ำกว่าในอดีต โดยจีนจะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่รัดกุมต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง
– โฆษกของนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป เผยยูโรกรุ๊ปจะประชุมกันในวันศุกร์นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อพิจารณาอนุมัติข้อตกลงเงินช่วยเหลือระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้ หลังรัฐบาลกรีซได้บรรลุข้อตกลงเงินช่วยเหลืองวดที่ 3 ในระยะ 5 ปีกับบรรดาเจ้าหนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยข้อตกลงเงินช่วยเหลือมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโร (9.5 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อแลกกับการปฏิรูปดังกล่าวขึ้นหลังจากที่มีการหารือกับหลายรอบนับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
– นางเซตี อัคห์ทาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า ธนาคารกลางมาเลเซียไม่มีแผนที่จะผูกสกุลเงินริงกิตเข้ากับสกุลเงินใดๆ ทั้งนี้ สกุลเงินริงกิตได้เริ่มอ่อนค่าลงนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 และปรับตัวลดลงมาแล้ว 12.32% ในปีนี้ ส่งผลให้ริงกิตเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าลงมากที่สุดสกุลเงินหนึ่งในเอเชีย
– ธนาคารกลางมาเลเซีย เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% เทียบรายปี นับว่าชะลอตัวลงเนื่องจากยอดส่งออกปรับตัวลดลง ขณะที่ความต้องการในประเทศประสบกับความซบเซาหลังประชาชนตื่นตัวกับการเก็บภาษีการบริโภครูปแบบใหม่ แต่ GDP ไตรมาสสองนั้นขยายตัวเหนือการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.5% และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสแล้ว GDP ไตรมาสสองปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสแรก โดย GDP ไตรมาสแรกนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.6% เทียบรายปี
– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำตลาดฮ่องกงปิดที่ระดับ 10,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ ทรงตัวจากวันก่อนหน้า หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,116.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์