“เทวัญ” รับเรื่อง “กลุ่มผู้ค้าสลากฯ” ร้องเยียวยาผลกระทบ “โควิด” ในฐานะเอสเอ็มอี

"เทวัญ ลิปตพัลลภ" รมต.ประจำสำนักนายกฯ รับเรื่อง "กลุ่มผู้ค้าสลากฯ" ร้องเยียวยาผลกระทบ "โควิด" ในฐานะเอสเอ็มอี ฟาก "เครือข่ายแผงลอย" ขอผ่อนผันเปิดแผง 26 จุด


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตัวแทนกลุ่มก้าวหน้าค้าสลากและเครือข่ายแผงลอย เข้าพบเพื่อหารือปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากการขยายเวลา พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและการแพร่ระบาดจากไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

โดยระบุว่า วันนี้ (1 มิ.ย.63)​ มีกลุ่มผู้พิการที่ขายสลากฯ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ได้จำหน่ายในช่วงที่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่บางรายต้องทำสัญญาเช่าพื้นที่จากเอกชนนับล้านบาท รวมถึงมีบางรายร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 1 หน่วยงาน เข้าจับกุมการขายสลากฯเกินราคา ซึ่งผู้ขายเข้าใจว่าการจำหน่ายเกินราคาผิดกฎหมาย แต่มีสาเหตุจากที่รับสลากฯ มาในราคาที่แพง นอกจากนี้ยังเรียกร้องเงินเยียวยาจากรัฐบาล เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับความเดือดร้อน

ทั้งนี้ นายเทวัญ กล่าวว่า จะนำผลการหารือวันนี้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยเฉพาะค่าเช่าพื้นที่ที่มีราคาสูง ก็จะขอความร่วมมือจากเอกชนอย่างเต็มที่

ด้านเครือข่ายแผงลอย ขอให้กทม. ผ่อนผันให้สามารถเปิดแผงลอยได้ใน 26 จุด จากเดิมที่ผ่อนผันให้เพียง 3 จุด ซึ่งทาง กทม.ได้ชี้แจงถึงการห้ามขายแผงลอยในหลายจุดว่า เป็นเพราะปัญหาการจราจร ความสะอาด และพบปัญหาการให้เช่าสัญญาต่อ หรือการเซ้งเปลี่ยนมือผู้ขาย

นอกจากนี้ยังมีการยกตัวอย่างกรณีที่ตลาดบางแค ซึ่งผู้ค้าไม่อยากย้ายไปขายในพื้นที่ใหม่ที่ซอยเพชรเกษม 69 เพราะอยู่ไกลจากจุดเดิม ในขณะที่ กทม. ชี้แจงว่า หากผู้ค้าไม่ย้ายไปที่ใหม่ ก็มีที่ว่างด้านหลังอยู่ แต่ส่วนใหญ่ต้องการขายริมถนนจุดเดิม ซึ่งพบว่าปัจจุบันบริเวณดังกล่าวเป็นจุดให้บริการรถไฟฟ้า และหากมีพื้นที่ขายอยู่จะกระทบการจราจรมาก

นายเทวัญ กล่าวว่า ทาง กทม.ได้แจ้งที่ประชุมว่าหลังจากนี้ การเปิดพื้นที่แผงลอยในจุดใด ๆ จะต้องมีขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์เพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชน ในขณะที่ตัวแทนผู้ค้าแผงลอย อยากเข้าร่วมในกระบวนการด้วย เพื่อให้ทราบว่าผู้ค้าต้องมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร ถึงจะขายได้โดยไม่มีปัญหา โดยทาง กทม.ได้รับข้อเสนอเพื่อนำไปพิจารณาและจะรายงานกลับมายังที่ประชุมต่อไป

Back to top button