SIRI โชว์ 5 เดือนกวาดยอดขาย 2.2 หมื่นลบ. ลุยอัพเป้าทั้งปีโตแตะ 3.5 หมื่นลบ.

SIRI โชว์ 5 เดือนกวาดยอดขาย 2.2 หมื่นลบ. ลุยอัพเป้าทั้งปีโตแตะ 3.5 หมื่นลบ.


นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายรวมในปี63 เป็น 3.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 67% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 2.1 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยอดขายในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ทำได้สูงถึง 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็น 76% ของเป้าหมายทั้งปีของเดิม

โดยความสำเร็จมาจากการตอบรับของลูกค้าจากความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ จากการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งนำหน้าคู่แข่ง อาทิ การเป็นผู้นำในการเปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่คิดจากความเข้าใจใน Customer Insight จากการจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอกเป็นเวลา 2 ปี ลูกค้านำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นตามต้องการได้ ไม่ต้องกังวลกับสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับสูงและรวดเร็ว

นอกจากนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้บริษัทต้องเร่งการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆให้เร็วกว่าแผนเดิม เพื่อแข่งขันกับสภาพตลาด (Speed to Market) ส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนที่ดี สวนกระแสตลาดหดตัว จนต้องมีการปรับเป้ายอดขายทั้งปี ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือนแรกของการดำเนินธุรกิจ และโชว์ผลงานปิดการขายโครงการต่อเนื่องไปแล้ว 16 โครงการ ซึ่งล่าสุด Sold out เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง และจ่อคิวปิดขาย เดอะ เบส สุขุมวิท 50

ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีในทุกประเภทที่อยู่อาศัยจากกลุ่มลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์แสนสิริ ทำให้สามารถทยอยปิดการขายอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นแนวราบ 12 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ โครงการสราญสิริ ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ, โครงการนาราสิริ โทเพียรี่, โครงการนาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1, โครงการนาราสิริ บางนา, โครงการสราญสิริ เกาะแก้วและบุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต, โครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ – 345 ทาวน์โฮมแบรนด์สิริเพลส อาทิ โครงการ สิริ เพลส ราชพฤกษ์ – รัตนาธิเบศร์, สิริ เพลส ติวานนท์ และสิริ เพลส กัลปพฤกษ์ – สาทร

รวมถึง ช้อปเฮาส์ในโครงการสิริ อเวนิว เพชรเกษม 81 และ ปิดการขาย”ไทเกอร์ เลน”ลักซ์ชัวรีโฮมออฟฟิศ บนที่สุดของทำเลทองฮวงจุ้ยท้องมังกรใจกลางย่านเสือป่า เยาวราช , การปิดการขาย 4 คอนโดมิเนียมซึ่งมีดีมานต์จากลูกค้าที่มองเห็นราคาที่ดีและเชื่อว่ามูลค่าโครงการสูงขึ้นอีก ในอนาคต ได้แก่ ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต, ดีคอนโด กำแพงแสน, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท กู้กู ภูเก็ต และ เดอะ เบส เพชรเกษม และล่าสุดยังปิดการขายคอนโดมิเนียม “เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง” จำนวน 1,288 ยูนิต มูลค่า 3.95 พันล้านบาท และยังจ่อคิวปิดการขาย เดอะ เบส สุขุมวิท 50 ภายในเดือนมิ.ย.นี้

“ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมารวมถึงแนวโน้มสถานการณ์อสังหาฯที่ดีขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้ ขณะที่รายได้และกำไรมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จากการเร่งโอนคอนโดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้แก่ “คาวะ เฮาส์” รีสอร์ทคอนโดริมน้ำกลางสุขุมวิท ที่มียอดขายแล้วกว่า 80%, “เดอะ เบส สุขุมวิท 50″ คอนโดมิเนียมที่ลงตัวด้วยฟังก์ชั่นและงานดีไซน์ สะท้อนความเป็นตัวคุณ ที่จ่อคิวใกล้ปิดการขาย รวมถึงแผนรุกเปิดตัวโครงการแนวราบอีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.52 หมื่นล้านบาท”นายเศรษฐา กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนรุกธุรกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปี 63 ภายใต้การบริหารธุรกิจ 3 แนวทางได้แก่ แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่รัดกุมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยหลังจากนี้เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 14 โครงการรองรับเรียลดีมานต์ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ การบริหารสต็อกที่ดี

โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมขายมูลค่าราว 8 พันล้านบาท นับว่าเป็นปริมาณที่มีความสุมดุลในตลาด เป็นผลมาจากการวางแผน Inventory ที่ดี ประกอบกับการบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดีด้วยการกำ Cash Flow เงินหมุนเวียนในบริษัทไว้ถึง 1 หมื่นล้านบาท มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์ รวมถึงสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คือ การยืนหยัดความเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด และพร้อมช่วยเหลือสังคม เพื่อก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปด้วยกัน

 

Back to top button