“ศบค.” แจงยังไม่เปิดสนบ.ภูเก็ต หลังพบผู้ติดเชื้อ “โควิด” ช่วง 14 วันที่ผ่านมา!
"ศบค." แจงยังไม่เปิดสนบ.ภูเก็ต หลังพบผู้ติดเชื้อ "โควิด" ช่วง 14 วันที่ผ่านมา!
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวในระหว่างแถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 วันนี้ (5 มิ.ย.63) ถึงกรณีสนามบินภูเก็ตที่ยังไม่เปิดให้บริการ ทั้งที่หลายสนามบินเปิดให้บริการแล้ว
โดย นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ศบค.ให้ความสำคัญต่อมาตรการการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดเกิดขึ้นในการผ่อนคลายระยะที่ 3 แต่เนื่องจากเรื่องของสนามบินเป็นเรื่องของการโดยสารคนจำนวนมากและอาจจะเกิดความแออัดในพื้นที่ และในส่วนของสนามบินภูเก็ต ยังพบมีการติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ ซึ่งในช่วง 14 วันที่ผ่านมา พบเคสล่าสุดวันที่ 25 พ.ค. ดังนั้น หากพ้นช่วง 14 วันไปแล้วไม่พบผู้ติดเชื่อเพิ่ม ก็จะเปิดให้บริการได้
“ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 25 พ.ค.พบว่ายังคงมีการติดเชื้อในพื้นที่อยู่ ถือว่าในช่วง 14 วันยังมีการแพร่เชื้ออยู่ก็ต้องใช้เวลา ถ้าไม่มีเลยยาวไปถึงวันที่มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ สนามบินภูเก็ตดูแลตัวเองได้อย่างดี มีตัวเลขที่น่าพึงพอใจ สนามบินภูเก็ตได้เปิดแน่นอน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
สำหรับหลักการพิจารณาเปิดสนามบินนั้น ทางคณะกรรมการเฉพาะกิจแบ่งกลุ่มสนามบินออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.ท่าอากาศยานที่อยู่นอกสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ AOT และไม่พบประวัติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้เลยในระยะ 14 วันที่ผ่านมา และมีระบบควบคุมโรคที่ดี สามารถเปิดทำการได้เลย
กลุ่มที่ 2 เป็นท่าอากาศยานที่สังกัด บมจ. ท่าอากาศยานไทย และอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่มีประวัติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีข้อมูลผู้ป่วยประปรายในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และมีระบบควบคุมโรคที่ดี กรณีนี้ก็ให้เปิดทำการได้เช่นกัน
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่สังกัด บมจ. ท่าอากาศยานไทย อยู่ในพื้นที่จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง มีประวัติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวนมากและระบบควบคุมโรคยังคงต้องมีการประเมิน
ขณะที่กรณี การผ่อนปรนระยะ 4 จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะผ่อนปรนอีเว้นต์ ผับ บาร์ พร้อมกันได้หรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลักการที่ผอ.ศบค.ให้ไว้ คือ อะไรที่พร้อมก็จะให้เปิดก่อน แต่ความพร้อมที่ว่าจะมีคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาศึกษา นำเสนอโดยกิจการ/กิจกรรมทั้งหลาย ซึ่งจะมีเลขา สมช.คอยรับฟัง
“ถ้าได้ภาพชัดเจนก็จะนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า แต่ถ้าพอรับทราบได้ แต่ยังไม่ดีก็ส่งไปเป็นการบ้านให้คณะกรรมการฯมารับทราบใหม่อีกที โดยเจ้าของกิจการ/กิจกรรมนั้นต้องมีชุดข้อมูลที่หลายภาคส่วนต้องมาพิจารณากันไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมอนามัยมาช่วยกันคิด ช่วยกันพูด คิดว่าเร็วๆนี้คงมีข่าวดี” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ