“ดาวโจนส์” ทะยานกว่า 900 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐแกร่งเกินคาด!
“ดาวโจนส์” ทะยานกว่า 900 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐแกร่งเกินคาด!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 900 จุด หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในวันนี้ ก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันพรุ่งนี้
โดย ณ เวลา 22.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,227.92 จุด บวก 946.10 จุด หรือ 3.60%
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าการจ้างงานจะลดลง 8.33 ล้านตำแหน่ง
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 13.3% ในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.5%
โดยเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ซึ่งสูงกว่าระดับ 10.8% ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับการพุ่งขึ้นของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ค. ถือเป็นการทำสถิติการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดภายในเดือนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐในรอบ 81 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2482
โดยตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าคาดในวันนี้ ได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และทำการจ้างงานครั้งใหม่ หลังจากที่มีการปลดพนักงานจำนวนมากในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ด้านหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน โรงแรม และกาสิโน ต่างก็ปรับตัวขึ้นในวันนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ แสดงความยินดีต่อตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่อ้างว่าเป็นผลงานของเขาที่ทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง แม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“เป็นรายงานการจ้างงานที่ดีจริงๆ และเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย