“สภาพัฒน์” เผยคืบหน้าแผนฟื้นฟูศก. ยื่นของบเกินกรอบ 4 แสนลบ. ย้ำต้องคุ้มค่า-ปชช.ตรวจสอบได้
"สภาพัฒน์" เผยคืบหน้าแผนฟื้นฟูศก. ยื่นของบแล้วเกือบ 6 แสนลบ. เกินกรอบวงเงิน 4 แสนลบ. ย้ำทีมกลั่นกรองฯ พิจารณายึดหลักต้องคุ้มค่า-โปร่งใส ปชช.ตรวจสอบได้
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้มีการพิจารณาโครงการเสนอขอใช้เงินกู้ในส่วนฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท ณ วันที่ 5 มิ.ย. มีส่วนการเสนอขอใช้เงินมาแล้วเกือบ 6 แสนล้านบาท ภายใต้กรอบแผนงานใน 4 ด้านหลัก ซึ่งเริ่มมีการเสนอโครงการมาแล้ว ดังนี้
แผนงานที่ 1 ลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เน้นเรื่องเกษตรอัจฉริยะ (เกษตรแม่นยำ เกษตรแปลงใหญ่ การเกษตรที่มีมูลค่าสูง) เรื่องอุตสาหกรรมอาหาร Bioeconomy เรื่องท่องเที่ยวเน้นคุณภาพ Hospitality Industry และเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีข้อเสนอเข้ามา 91 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 220,000 ล้านบาท
แผนงานที่ 2 ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจชุมชน เน้นเรื่องเกษตรพอเพียง/ผสมผสาน สินค้าและบริการชุมชม โอทอป และท่องเที่ยวชุมชน มีข้อเสนอรวมถึง 28,331 โครงการ วงเงินรวม 372,532.65 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็น ข้อเสนอจากจังหวัด 55 จังหวัด มีข้อเสนอ 28,196 โครงการ วงเงิน 203,643.48 ล้านบาท และข้อเสนอจากส่วนราชการรวม 13 กระทรวง และ 4 หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี เสนอมา 115 โครงการ วงเงิน 168,889.17 ล้านบาท
แผนงานที่ 3 ส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน สิ่งที่ทำได้จะช่วยกระตุ้นการบริโภค คือ โครงการไทยเที่ยวไทย เช่น มีแนวคิดที่จะออกแพ็คเก็จท่องเที่ยวที่เป็นส่วนลดให้กับนักท่องเที่ยวนำไปใช้จ่ายค่าห้องพัก และรัฐจะช่วยจ่ายส่วนต่างให้กับผู้ประกอบการแทน เป็นต้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกันของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง
แผนงานที่ 4 สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนกระบวนการผลิต เน้นโครงการพื้นฐานระดับชุมชน การพัฒนาแหล่งน้ำ และการพัฒนาดิจิทัลแพลทฟอร์ม มีข้อเสนอ 3 โครงการวงเงินไม่มากนัก
สำหรับขั้นตอนการพิจารณาโครงการในรอบแรก ในวันที่ 5-15 มิ.ย. เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า คณะทำงานจะเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดโครงการเบื้องต้น พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดโครงการ ผ่านระบบ ThaiMe
ทั้งนี้ เมื่อผ่านการตรวจสอบรอบแรก ก็จะเข้าสู่ชั้นคณะอนุกรรมการและกรรมการกลั่นกรอง ในช่วงวันที่ 16-30 มิ.ย. และเข้า ครม.รอบแรกในช่วงวันที่ 2 หรือ 7 ก.ค.
ส่วนที่โครงการไม่ผ่าน มีบางโครงการที่คณะทำงานตีตก และบางโครงการที่ต้องส่งข้อมูลเพิ่ม ก็จะต้องส่งมาภายใน 9 ก.ค. เพื่อรวมกับโครงการเสนอมาเพิ่ม และเสนอ ครม.พิจารณารอบ 2 ในวันที่ 11 ส.ค.
อย่างไรก็ตาม นายทศพร กล่าวว่า การอนุมัติโครงการภายใต้กรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาทจะยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดหลักต้องเป็นโครงการที่ประชาชนมีส่วนร่วม โปร่งใส มีความคุ้มค่า เกิดผลสัมฤทธิ์ ตอบสนองความต้องการของประชาชนและตรวจสอบได้ ซึ่งโครงการที่เสนอมาจะต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นหรือการส่วนร่วมของประชาชน ก่อนที่คระกรรมการกลั่นกลองจะพิจารณา อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าโครงการได้ผ่านทางระบบ ThaiMe