AP เผยยอดขายครึ่งแรกทะลุ 40% ลุ้นทั้งปีโตเข้าเป้า 3.35 หมื่นลบ.

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายในปีนี้ได้ตามเป้าหมาย 3.35 หมื่นล้านบาท หลังจากช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 63) ทำยอดขายแล้ว 1.23 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของเป้าทั้งปี ซึ่งยังไม่รวมกับยอดขายในสัปดาห์แรกของเดือนมิ.ย.ที่มีเข้ามาแล้ว 1.1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/63 เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นจากไตรมาส 1/63 แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามากระทบ แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การขายของบริษัทผ่านช่องทางออนไลน์ และนำเทคโนโลยี AP vTOUR มาใช้พาชมโครงการแบบเรียลไทม์ผ่านออนไลน์ พร้อมการดูแลแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ร่วมกับการทำแคมเปญการตลาด ทำให้แนวโน้มยอดขายทำได้สูงกว่าไตรมาสแรกที่มียอดขาย 5.4 พันล้านบาท โดยในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 มียอดขายราว 6.25 พันล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ทำให้การขายอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคัก แม้ว่าจะไม่มีการเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ แต่จะเห็นว่าผู้ประกอบการแทบทุกรายต่างออกแคมเปญมากระตุ้นกำลังซื้อ และส่วนใหญ่ต้องการระบายสต๊อกในมือเพื่อสร้างรายได้ ทำให้มีการออกแคมเปญโปรโมชั่นหลายรูปแบบมาแข่งขันกัน

อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าปัจจุบันยังเป็นโอกาสที่จะสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่คุ้มค่า เนื่องจากผู้ประกอบการนำโครงการมาจัดโปรโมชั่น และยังมองว่าในวิกฤตยังมีโอกาสในการสร้าวผลตอบแทนจากสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัย และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และมีความเสี่ยงต่ำกว่าสินทรัพย์อื่นๆ จากความผันผวนและความไม่แน่นอน

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังคงติดตามสถานกาณ์ของโควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศไทยจะคลี่คลายลงไปมากแล้ว เพราะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมาต่อเนื่องมา 15 วัน ทำให้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ แต่หากสถานการณ์ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติชัดเจน ก็คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีก และจะเริ่มเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่จากผู้ประกอบการในตลาด รวมถึงบริษัทด้วย

ขณะที่ในภาวะ New Normal ตามแบบของบริษัทที่เรียกว่า “Next Normal” บริษัทได้ให้ความใส่ใจในการอยู่อาศัยร่วมกันในคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความมั่นใจในความปลอดภัย และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข บริษัทจึงได้เปิดตัว THE FUTURE OF LONGEVITY DESIGN แนวคิดใหม่ในการออกแบบพื้นที่และการบริหารจัดการเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันในวิถีใหม่อย่างยั่งยืน โดยนำร่องใช้ที่โครงการ LIFE อโศก-พระราม 9 เป็นแห่งแรก

โดยชู 4 แนวคิด ได้แก่ 1.The Next-Level of Sharing Space การนำเสนอทฤษฎีใหม่ Human x Social Distancing Scale ที่ใช้หลักการของการออกแบบสัดส่วนมนุษย์กับการเว้นระยะห่างทางสังคมในพื้นที่ส่วนกลางที่มีระยะห่างตั้งแต่ 1.20-3.00 เมตร เพื่อลดความหนาแน่นในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เช่น Lobby, Co-working Space, Fitness และ Lounge เป็นต้น

2.Clean Air Quality ใช้หลักการออกแบบระบบระบายอากาศ (Ventilation Design) เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายใน ตลอดจนและการพัฒนานวัตกรรมและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เอื้อให้เกิดอากาศที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับการคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และการบำรุงรักษาในระยะยาว

3.Trustable Society ยกระดับมาตรฐานการทำงานของทีมบริหารจัดการจาก บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ในเครือเอพี เพื่อสร้างสังคมแห่งการเชื่อใจ อุ่นใจในทุกพื้นที่อยู่อาศัย ด้วยการวางแผนบริหารจัดการให้ทุกพื้นที่ห่างไกลเชื้อโรค และอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านในการเข้าใช้ Facilities ต่างๆภายในโครงการ

และ 4.Tech-Life Management การนำ SMART WORLD ดิจิตอลแพลตฟอร์มบริหารคุณภาพชีวิตหลังการเข้าอยู่อาศัยเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย

“ถือเป็นครั้งแรงของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยก็ว่าได้กับการนำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการจัดการพื้นที่ส่วนกลางในวิถีใหม่ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการหลังการเข้าอยู่อาศัย ซึ่งสุดท้ายแล้ว เชื่อว่ามนุษย์ยังคงต้องการ Socialization หรือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งการปรับดีไซน์ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจในการอยู่อาศัยของลูกค้าอย่างแน่นอน”

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม LIFE อโศก-พระราม 9 เป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มูลค่าโครงการ 9.8 พันล้านบาท ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 90% กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ขณะนี้มียอดขายแล้ว 95% เตรียมทยอยโอนให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นไป