EA ร่วมมือ “กลุ่มช่วยกัน” มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรค 11 โรงพยาบาลสู้ภัย “โควิด-19”
EA ร่วมมือ “กลุ่มช่วยกัน” มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรค 11 โรงพยาบาลสู้ภัย “โควิด-19”
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ และลม น้ำมันไบโอดีเซล โดยได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มผู้ก่อตั้ง “กลุ่มช่วยกัน” เปิดเผยว่าในวันที่ 11 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ และบริษัทในเครือ
รวมทั้งกลุ่มช่วยกันได้ส่งมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรค เครื่องกรองอากาศ และหน้ากากแรงดันบวกให้กับ 3 หน่วยงานสำคัญในเขตกรุงเทพฯ เพื่อร่วมช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ประกอบด้วย สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เพื่อนำอุปกรณ์ต่างๆ ไปมอบต่อให้กับ 11 โรงพยาบาลในสังกัด
โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับมอบ และในวันเดียวกันยังได้มอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ให้กับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ทพ.ดร.สุชิต พูลทอง คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้รับมอบ อีกทั้งได้มอบให้กับโรงพยาบาลตำรวจ โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้รับมอบ
สำหรับ 11 โรงพยาบาลในความดูแลของสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครที่จะได้รับการจัดสรรอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ประกอบด้วย โรงพยาบาลกลาง, โรงพยาบาลตากสิน, โรงพยาบาลสิรินธร, โรงพยาบาล เจริญกรุงประชารักษ์,โรงพยาบาล เวชการุณย์รัศมิ์ ,โรงพยาบาล ราชพิพัฒน์,โรงพยาบาล ผู้สูงอายุบางขุนเทียน,โรงพยาบาล หลวงพ่อทวีศักดิ์, โรงพยาบาลลาดกระบัง, โรงพยาบาลคลองสามวา, และโรงพยาบาล บางนากรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2563 กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ และกลุ่มช่วยกัน ยังมีกำหนดการเข้ามอบอุปกรณ์กำจัดเชื้อโรคให้กับอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และสถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้เป็นการ
เดินหน้าตามยุทธศาสตร์การรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยจะยังคงมีการทยอยส่งมอบอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลอีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมุ่งหวังที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ และเพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของบุคลากรการแพทย์และประชาชน
นายสมโภชน์ กล่าวว่า นอกจากการเข้าช่วยเสริมศักยภาพในการจัดการกับเชื้อโรคของสถานพยาบาล และสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ อยากเชิญชวนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการเปิดเมือง ทำให้ผู้ใช้ได้ทราบความเสี่ยงของตนเองจากกิจกรรมและบุคคลที่ตนเองได้ใกล้ชิดในช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเด่นจากการนำ Bluetooth มาทำงานร่วมกับ GPS ทำให้สามารถติดตามได้ว่าผู้ใช้ได้เคยใกล้ชิดผู้ป่วยหรือได้เดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงและใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในระยะรัศมี 5 เมตร จึงทำให้สามารถคัดแยกผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อในวงที่แคบลงได้ จึงจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ช่วยลดโอกาสการเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ไว้บนโทรศัพท์มือถือและแสดง QR Code ในโทรศัพท์มือถือที่ใช้พกพาประจำตัวเปรียบเสมือน eHealth Passport หรือ COVID VISA ใช้แสดงหรือตรวจสอบก่อนเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับไทยชนะได้ โดยยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามโครงการต่าง ๆ ของ “กลุ่มช่วยกัน” หรือเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.chuaygun.com และ facebook กลุ่มช่วยกัน