“สุวิทย์” เปิดใจไม่เคยเห็นสัญญา“เพลย์เวิร์ค” ซัด“เขมทัตต์”มัดมือชก ลุยฟ้องศาลฯล้มมติกสทช.

นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียง SMM Sport Radio FM 96 MHz. และทางแฟนเพจ Facebook : ข่าวหุ้นธุรกิจ / Facebook : ข่าวหุ้นเจาะตลาด / YouTube Channel : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ วันที่ 3 มี.ค.2563 ช่วงเวลาประมาณ 9.40 น.

ถึงประเด็นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีมติเห็นชอบเงินเยียวยาให้กับ MCOT จากการเรียกคืนคลื่น 2600 MHz ก่อนกำหนดเพื่อนำไปประมูล 5G เป็นจำนวน 3,235.83 ล้านบาท และให้ MCOT ปฏิบัติตามหนังสือที่ส่งมายังสำนักงาน กสทช. ซึ่งแจ้งว่าจะแบ่งค่าตอบแทนดังกล่าวในจำนวนเท่าๆ กัน ระหว่าง MCOT กับบริษัทคู่สัญญาคือ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด โดยอ้างอิงหนังสือมอบอำนาจของประธานกรรมการ MCOT และการใช้อำนาจของนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT

โดย นายสุวิทย์ ระบุว่า หนังสือยืนยันรายละเอียดและสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว ยังไม่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมบอร์ด และที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนแต่อย่างใด

“บอร์ดที่ลาออกมองว่าหนังสือที่ส่งไปยัง กสทช. ควรได้รับอนุมัติจากที่ประชุมบอร์ดและที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน ซึ่งการส่งไปยังกสทช.โดยไม่ผ่านบอร์ดถือว่าเป็นหนังสือที่มิชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อกสทช.มีมติออกมา กลับนำเรื่องดังกล่าวมาเข้าบอร์ดทีหลังเพื่อรับทราบเท่านั้น รวมทั้งมีปัญหาการบริหารเรื่องอื่น ๆ มาก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งบอร์ดได้โทร.มาหาว่าเบื่อบรรยากาศในบอร์ดที่ไม่พูดเรื่องการบริหาร MCOT ที่ดีขึ้น แต่มุ่งเอาชนะกันในเรื่องอะไรก็ไม่รู้ จึงทำให้บอร์ดแสดงจุดยืนด้วยการลาออก” นายสุวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการ MCOT ยื่นใบลาออก 3 รายได้แก่ 1.นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2563 2.ศาสตราจารย์ปาริชาต สถาปิตานนท์กรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 3.นายมนตรี แสงหิรัญ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563

โดยการลาออกดังกล่าว เป็นการแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจในทางมิชอบของ นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT

นอกจากนี้ตนมองว่ากรณีดังกล่าวนั้นเป็นการใช้อำนาจที่มิชอบ และไม่เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของ MCOT และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และยังขัดต่อนโยบายของ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและขัดต่อบัญชาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการชัดเจนให้ดำเนินการอย่างรอบคอบในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ทั้งนี้ สิ่งที่สหภาพแรงงานฯต้องการที่สุดในตอนนี้คือผลของอนุกรรมการเยียวยาทั้ง 7 ท่าน และตัวสัญญาที่ทาง บริษัท เพลย์เวิร์ค ทำร่วมกับ อสมท. เพื่อจะได้เห็นถึงข้อมูลการลงทุน รวมถึงผลกระทบที่ได้รับ เนื่องจากตนมองว่าการที่เอกชนมาร่วมลงทุนกับรัฐวิสาหกิจ จะต้องไม่ถูกเอาเปรียบ

อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติของทางกสทช.ได้ ทางสหภาพแรงงานฯคงต้องร้องศาลปกครองให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน ในฐานะที่ผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสียโดยตรง เพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจากมติ กสทช.ที่ออกมาเป็นแบบนี้ และถ้าทาง กสทช. ยืนกรานว่ามติดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทำทุกช่องทางเพื่อให้ความจริงกระจ่างออกมา และนี่จะเป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่าบทบาทของสหภาพแรงงานในรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้มีไว้เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวแต่อย่างใด