ศาลรธน.รับคำร้องถอด “ธรรมนัส” พ้น “ส.ส.-รัฐมนตรี” เซ่นปม “มันคือแป้ง”!
ศาลรธน.รับคำร้องถอด “ธรรมนัส” พ้น “ส.ส.-รัฐมนตรี” เซ่นปม “มันคือแป้ง”!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 มิ.ย.2563) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับพิจารณาคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 51 คนที่ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
โดยมติดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณากรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ถูกร้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้ถูกร้อง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ 160 (6) และมาตรา 98 (10) หรือไม่
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง แล้วเห็นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 51 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ร้อง ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (10) และผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (5) และ (9)
ดังนั้น ศาลฯ จึงสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 54
สำหรับการพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีหรือไม่ นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่มีเหตุอันควรสงสัยที่จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งว่าผู้ถูกร้องไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง
ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” รายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำพิพากษาของศาลออสเตรเลียในคดียาเสพติดเมื่อ 26 ปีก่อน โดย ส.ส.พรรคก้าวไกลยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่า ร.อ.ธรรมนัส ควรพ้นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม มีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเคยจำคุกในประเทศออสเตรเลีย
โดยประเด็นดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านโดยยืนยันว่า ตนเองเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ขัดรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน ซึ่งการเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองเป็น ส.ส.พะเยา คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมว่าถูกต้องโทษโดยศาลไทยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนคำพิพากษาของออสเตรเลียนั้น ร.อ.ธรรมนัสอ้างว่าเป็นการตัดสินแบบ “pre-sentence” คือมีการเจรจาก่อนมีการพิจารณาคดีแบบลูกขุน และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเฮโรอีน
“ผมอยากจะกราบเรียนท่านประธานว่า ผมไม่ได้รับสารภาพว่า ผมเป็นผู้นำเข้า ส่งออก จำหน่าย และผลิต สิ่งเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีน สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบยาเสพติดของรัฐนิวเซาท์เวลส์อ้างว่าเป็นเฮโรอีน 3.2 กก. นั้น มันคือแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวภายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล