“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ซิวปธ.กมธ. สอบงบ “โควิด” หวิดชวดเก้าอี้ หลังเจอฝ่ายค้านแย้งไม่เหมาะสม
“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ซิวประธาน กมธ.วิสามัญ สอบงบ “โควิด” หวิดชวดเก้าอี้ หลังเจอฝ่ายค้านแย้งไม่เหมาะสม
รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพ.ร.ก. 3 ฉบับเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สภาผู้แทนราษฎร นัดแรก เพื่อเลือกประธานฯ และรองประธานฯ โดยนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ได้มีการเสนอความเห็นถึงการทำหน้าที่ในคณะ กมธ. อาทิ นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และนายอดิศร เพียงเกษ จากพรรรคเพื่อไทย เสนอตรงกันว่าโดยหลักการประชาธิปไตย ผู้ที่จะตรวจสอบควรเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ประธานเพราะมีความสำคัญ ต้องเป็นบุคคลที่สังคมให้การยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข และรับไม่ได้หากนายไพบูลย์ จะมาเป็นประธาน เพราะมีข่าวว่าคณะรัฐมนตรีส่งมาให้คุม กมธ.
นายอดิศร กล่าวว่า ตนเองจะต้องปรึกษาหารือกับพรรคเพื่อไทยและลาออก เพราะไม่อยากรับคำสั่งจาก ครม. เรื่องนี้เป็นการตรวจสอบ ต้องทำงานโดยปราศจากข้อสงสัย
ขณะที่นายมุข สุไลมาน ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประธานจะเป็นภาพแรกของ กมธ.ว่าบวกหรือลบ จึงอยากให้ กมธ.ที่เข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองพิจารณาในส่วนนี้
ส่วนนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย กล่าวว่า เห็นด้วยว่าประธานฯ ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์จึงขอเสนอชื่อนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ อาวุโสทางวัยวุฒิและคุณวุฒิ ได้รับการยกย่องในสังคม และเห็นว่าหากรัฐบาลต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างสง่างาม ขอพรรคพลังประชารัฐอย่ารับตำแหน่งประธานฯ
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันผลักดันนายไพบูลย์ และย้ำว่าพรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติ
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ มองว่า กมธ.ชุดนี้มีหน้าที่รักษาศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติ และยืนยันว่าคนที่เข้ามาเป็น กมธ.ทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความรู้ความสามารถเหมือนกัน
จากนั้นเข้าสู่กระบวนการลงมติซึ่งในกรณีที่มีการเสนอชื่อมากกว่า 1 คนต้องลงคะแนนโดยลับ ผลการลงคะแนนปรากฏว่านายไพบูลย์ได้รับเลือกเป็นประธานฯ ด้วยคะแนน 28 ต่อ 19 เสียง ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 เสียง