FVC พุ่งชนซิลลิ่ง-นิวไฮรอบ 10 เดือน คาดเก็งฯผลงานปีนี้มีกำไร-หุ้นต่ำบุ๊ก!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ณ  เวลา 15.32 น. อยู่ที่ระดับ 0.50 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 13.64% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.75 ล้านบาท ราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิ่งของวันที่ระดับ 0.50 บาท และทำนิวไฮในรอบ 10 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นปรับตัวที่ระดับ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 9 ส.ค.62  ขณะเดียวกันราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 0.69 บาท

โดยก่อนหน้านายวิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 น่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากคู่ค้าปิดกิจการชั่วคราว และสาขาวุฒิศักดิ์ คลินิก ของบริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจให้บริการคลินิกเวชกรรมด้านสุขภาพและความงามได้ ส่งผลทำให้ไม่มีรายได้ในส่วนนี้เข้ามา

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/63 น่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงและภาครัฐผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ  โดยเฉพาะทำให้สาขาวุฒิศักดิ์ คลินิก กลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว 6 สาขา

ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะกลับเน้นด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ทั้งบุคลากร และ Smart Warehorse รวมทั้งมองโอกาสขยายตลาดเข้าไปยังธุรกิจอาหารและสุขภาพมากขึ้น รวมถึงยังมีแผนการลงทุนพัฒนาด้านระบบไอทีเพื่อสร้างกำไรให้กับบริษัทฯ

ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 800-900 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 822.41 ล้านบาท และคาดหวังพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ หลังจากไตรมาส 1/63 มีผลขาดทุนสุทธิลดลงมาที่ 6.62 ล้านบาทแล้ว จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสูงถึง 252.27 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตจะมาจากธุรกิจงานโครงการ และ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง OASIS ซึ่งเป็นระบบบริการน้ำดื่มในสนามบินต่างๆ และผลิตภัณฑ์ระบบฆ่าเชื้อ แบรนด์ Biosure เป็นต้น

ขณะที่บริษัทฯ ก็จะมีการปรับโครงสร้างในกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (Medical Service) โดยจะแยกการให้บริการคลินิกความงาม วุฒิศักดิ์ คลินิก ออกมาเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง เนื่องจากไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันกับธุรกิจไตเทียม

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (64-66) บริษัทจะดำเนินการ Re-Inventing ธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย จากกระทบของโควิด-19 และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้มีความจำเป็นจะต้องปฏิรูปธุรกิจดังกล่าวเพื่อให้มีความก้าวหน้า, การพัฒนาด้าน Digital Platform, การทำ Smart Warehorse อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถบริหารจัดการสต็อกและบริการดิลิเวอรี่ โดยเฉพาะการสร้างประสิทธิภาพของซัพพลายเชนจากเวนเดอร์ไปจนถึงลูกค้า

นอกจากนั้น บริษัทยังตั้งเป้าหมายจะนำบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (KTMS) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสถานพยาบาลเพื่อให้บริการฟอกไตด้วยระบบไตเทียมให้กับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 65

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายภายในปี 66 ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำจะเติบโตเป็น 150-200 ล้านบาท, ธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย 500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ 300 ล้านบาท